สงครามราคายุติ! ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนฟื้น หนุนหุ้นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์

     หลังจากในช่วงตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงต้นปีนี้การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเป็นไปอย่างดุเดือดนับตั้งแต่ Tesla ตัดสินใจประกาศลดราคารถยนต์ลงเพื่อกระตุ้นยอดขาย นำมาซึ่งสงครามราคาที่หลายบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ต่างพยายามทำตามเพื่อกระตุ้นยอดขายเช่นเดียวกัน แต่ในช่วง 2-3 เดือนล่าสุดนี้ ดูเหมือนว่าจะมีหลายสัญญาณที่บ่งบอกว่า สงครามราคาของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนได้จบลงแล้ว และถึงช่วงเวลาที่เหล่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะกลับมาเติบโตได้อย่างดีอีกครั้ง                             

     สำหรับราคาหุ้นของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาก็กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่น นำโดยบริษัท Xpeng ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 141% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา , ราคาหุ้นของบริษัท Nio ปรับเพิ่มขึ้นถึง 109% และ Li Auto ปรับเพิ่มขึ้นถึง 58% สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของทั้ง 3 บริษัทในเดือนกรกฎาคมที่ถึงแม้โดยปกติจะไม่ใช่เดือนที่ยอดขายรถยนต์ออกมาดีนัก แต่ในปีนี้ยอดขายรถยนต์ของ Nio เพิ่มสูงขึ้นถึง 104% จากปีที่แล้ว ส่วนยอดขายของ Li Auto เพิ่มขึ้นถึง 228% ด้าน Xpeng ถึงแม้ว่ายอดขายจะทรงตัวเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ก็ยังคงเพิ่มขึ้นราว 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมิถุนายน

     และที่สำคัญหากดูจากหลาย ๆ ปัจจัยในช่วงระยะเวลาต่อจากนี้ยังดูเหมือนว่าธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะน่าจะยังสามารถเติบโตไปได้ต่อ โดย UBS ได้ออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนช่วงครึ่งปีหลังว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกซึ่งอยู่ที่ราว 5.7 ล้านคัน นอกจากนี้รายได้ของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจะยังเติบโตได้ดีต่อเนื่องเช่นกัน หลังจากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตได้ถึง 37% เมื่อเทียบกับในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่แล้ว

     ซึ่งยอดขายและราคาหุ้นของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงราวกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชึ้ว่าการทำสงครามราคาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ชาวจีนบางส่วนเริ่มชะลอการซื้อรถยนต์ในช่วงแรกของการเริ่มสงครามราคา

     และอีกหนึ่งเหตุผลที่ดึงดูดให้ชาวจีนกลับมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะเป็นเพราะเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถดึงดูดชาวจีนให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น อาทิ รถยนต์รุ่น G9 ของบริษัท Xpeng ซึ่งปัจจุบันสามารถเริ่มใช้งานระบบไร้คนขับใน 4 เมืองใหญ่ของจีนได้แล้ว คือ ปักกิ่ง , เซี่ยงไฮ้ , กวางโจว และ เซินเจิ้น ด้านบริษัท Li Auto ก็ได้เริ่มทำการทดสอบระบบนำทางของรถยนต์ไร้คนขับของตัวเองแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งมีรายงานข่าวระบุว่าสามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินจากการขับรถได้ รวมถึงสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางไปยังถนนเส้นอื่น ๆ หากว่าเกิดสภาพการจราจรติดขัด

     ด้านการเติบโตในระยะยาวนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าหลังจากราคาชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มปรับตัวลดลง รวมถึงราคาลิเทียมที่ลดลงด้วยเช่นเดียวกันจะยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถแข่งขันได้กับรถยนต์สันดาปได้ดียิ่งขึ้น

     ส่วนระดับ valuation ที่เคยถูกประเมินว่าแพงและเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของจีนให้ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาก็เริ่มปรับลดลงสู่ระดับที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยระดับ Valuation ของหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจีน ปรับลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี อยู่ที่ P/E ราว 25 เท่า หลังจากราคาหุ้นของทั้ง Xpeng , Nio และ Li Auto ปรับลดลงอยู่ที่ระหว่างราว 37%-80% ในปีที่แล้ว

     และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของจีน คือ การสนับสนุนจากทางรัฐบาลจีนที่ต้องการให้เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวได้ดี หลังจากเศรษฐกิจจีนเติบโตได้ไม่ดีนักในช่วงหลัง ซึ่งมาตรการล่าสุดที่ทางการจีนออกมายังคงขยายมาตรการลดภาษี รวมถึงออกมาตรการเพิ่มเติมในการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานมากยิ่งขึ้น

     โดยภาพรวมจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของจีนถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ยังเติบโตได้อย่างโดดเด่นทั้งในด้านของราคาหุ้น และในด้านของโอกาสในการเติบโตในอนาคต สวนทางกับภาพรวมของตลาดหุ้นจีนที่ปรับลดลงมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งหากนักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนกลุ่มอื่น ๆ แต่ยังไม่มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า การกระจายลงทุนมายังกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของจีนน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว