ตลาดรอติดตามประเด็นอะไร ในการประชุมสองสภาของจีนปี 2024

   การประชุมสองสภาของจีน (The Two Sessions) ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสำคัญของการเมืองจีน กำลังเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง โดยการประชุมสองสภาในปีนี้จะเริ่มจัดขึ้นในช่วงวันที่ 4 มี.ค. และดำเนินการประชุมยาวไปอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยประเด็นที่นักลงทุนคาดหวังในปีนี้จะต่างกับปีที่แล้วค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากปีที่แล้วตลาดเฝ้าติดตามท่าทีของ Xi Jinping ในเรื่องการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังเขาได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 และการแถลงนโยบายปฏิรูปครั้งสำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่ในปีนี้นักลงทุนคาดหวังถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดการเงินและการแก้ไขปัญหาภาคอสังหาฯ ซึ่งแนวทางเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดเป้าหมายทางเศรษฐกิจของจีนทั้งปี 2024 โดยในบทความนี้จะมาพูดถึงรายละเอียดที่ตลาดคาดหวังจะให้เกิดขึ้นในการประชุมสองสภาครั้งนี้ 

    โดยในช่วงต้นของการประชุมสองสภาของจีนในครั้งนี้ นายก Li Qiang จะได้ขึ้นมากล่าวเปิดงาน และกล่าวถึงการทำงานของเขาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งพูดถึงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและเป้าการขาดดุลงบประมาณในปี 2024 ซึ่งคาดว่าจะคงไว้ที่ระดับที่ 5% และ 3% ตามลำดับ

    โดยประเด็นเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปี 2024 ถือเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันอย่างมาก เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าด้วยปัญหาภาคอสังหาฯ และภาวะเงินฝืดในจีน จะทำให้เศรษฐกิจจีนปีนี้เติบโตเพียงประมาณ 4.6% (ค่าเฉลี่ยใน Bloomberg Consensus) อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตัวเลขการบริโภคในช่วงตรุษจีนที่กลับมาขยายตัวเหนือระดับก่อนเกิด COVID ประกอบกับมุมมองของรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละหัวเมืองใหญ่ๆ ของจีนที่คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจในแต่ละหัวเมืองจะขยายตัวเฉลี่ยมากกว่า 5% ก็ทำให้นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่ามีโอกาสสูงที่รัฐบาลจีนอาจตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจปี 2024 ไว้ที่ระดับ 5% ดังเดิม

1. นโยบายการคลังและการเงินที่คาดว่าจะออกมามีอะไรบ้าง

    เป้าขาดดุลงบประมาณที่ได้กล่าวไปก่อนหน้าที่ระดับ 3% ของ GDP นั้น หลักๆ มาจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าภาครัฐจะมีการให้โควตาการออกพันธบัตรกับรัฐบาลท้องถิ่นจำนวน ¥4 trillion และโควตาการออกพันธบัตรของรัฐบาลกลางเองอีก ¥1 trillion อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่ารัฐบาลอาจมีการอนุมัติพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นแบบพิเศษเพิ่มเติมอีกประมาณ ¥4 trillion เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและให้การช่วยเหลือเงินสนับสนุนแก่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ในแต่ละหัวเมือง ซึ่งจะทำให้ดุลงบประมาณของจีนขาดดุลมากกว่า 6% ของ GDP

    โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการใช้จ่ายด้านการคลังในปีนี้ของรัฐบาลจีนจะเน้นไปที่ 3 เรื่องหลัก ดังนี้

    1. เงินสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเป็น Growth Driver ของจีนในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ภาครัฐกำลังให้ความสนใจ และเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในอนาคต อาทิ EV, Semiconductor, AI และ Cloud เป็นต้น

    2. เงินสนับสนุนภาคอสังหาฯ โดยในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐและกลุ่มธนาคารเริ่มมีการปล่อยเงินสนับสนุนแก่ผู้พัฒนาอสังหาฯ มากขึ้น นอกจากนี้ภาครัฐอาจมีการออกมาตรการที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อว่าจะได้รับบ้านแน่นอน รวมทั้งอาจออกมาตรการกระตุ้นยอดขาดด้วยการลดเงินดาวน์ หรือใช้มาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อและรักษาเสถียรภาพในภาคส่วนนี้

    3. เงินสนับสนุนในส่วนอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้หันกลับมาลงทุนในจีนมากขึ้น อาทิ นโยบายสนับสนุนตลาดการเงิน, นโยบายสนับสนุนภาคการบริโภค และนโยบายดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เป็นต้น

    ในด้านนโยบายการเงิน นักวิเคราะห์มองว่าอาจไม่ได้มีพูดถึงในการประชุมครั้งนี้มากนัก แต่ภาครัฐอาจให้คำมั่นว่าจะมีการใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายต่อ และให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ตลาดการเงินและผู้พัฒนาอสังหาฯ ให้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้

2. หารือความคืบหน้าของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 (2021-2025)

    นักวิเคราะห์มองว่าการประชุมสองสภาในครั้งนี้จะมีการทบทวนและอัปเดตความคืบหน้าของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 หลังดำเนินตามแผนมาเกินครึ่งทางแล้ว ซึ่งหากการดำเนินงานยังคงไม่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ก็มีโอกาสสูงที่ภาครัฐอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับแผนออกมา ซึ่งกลุ่มที่อาจได้รับประโยชน์ก็จะเป็นกลุ่ม Clean Energy และกลุ่ม EV ซึ่งมีส่วนช่วยลด CO2

    จากบทความที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการประชุมสองสภาในครั้งนี้มีรายละเอียดหลายเรื่องให้ชวนติดตาม และอาจเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาด โดยถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนจะมีการฟื้นตัวหลังภาครัฐจีนได้มีการออกมาตรการสนับสนุนด้านตลาดการเงินออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการห้าม short sell หุ้น การอัดเม็ดเงินลงทุนผ่าน ETF หรือการระงับการเทรดของกองทุนบางกองทุนที่มีการขายผิดปกติเป็นจำนวนมาก เป็นต้น

    แต่สิ่งที่ตลาดคาดหวังหลังจากนี้ คาดว่าจะเป็นประเด็นเรื่อง แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้ว่าจะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ไหม ภาครัฐจะออกนโยบายการคลังใหม่ๆ ออกมาสนับสนุนเพิ่มเติมหรือไม่ รวมทั้งอยากได้ความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นตลาดที่ภาครัฐได้เคยพูดถึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราคาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมในสองสภานี้ และจะเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและอาจทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้อีกสักระยะ

ที่มา: Bloomberg Economics, Goldman Sachs Global Investment Research, Local Governments, SCMP

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว