หลังจากราคาหุ้น Nvidia ปรับเพิ่มขึ้นแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2023 จนถึงช่วงต้นปี 2024 และล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว Market Cap ของ Nvidia ก็ได้เพิ่มขึ้นแซงหน้าทั้ง Amazon และ Alphabet (Google) จนกลายมาเป็นบริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของสหรัฐฯ เป็นรองเพียง Microsoft และ Apple เท่านั้น และในสัปดาห์นี้ถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่สำคัญของ Nvidia ที่นักลงทุนทั่วโลกเฝ้าจับตามองซึ่งก็คือ วันที่ Nvidia ประกาศผลการดำเนินงานออกมา เนื่องจากท่ามกลางกระแส AI ที่มาแรง ทำให้หลายฝ่ายคาดหวังต่อการเติบโตจาก Nvidia ไว้สูงมาก และทำให้เริ่มเกิดความกังวลว่า หากทิศทางการเติบโตรายได้ของ Nvidia เริ่มชะลอลง จะถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงจุดเริ่มต้นของการเกิดฟองสบู่ในหุ้น AI หรือไม่

     แต่เมื่อผลการดำเนินงานของ Nvidia ถูกประกาศออกมาจริง ๆ ก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน โดยผลการดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าที่คาด และการคาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันยังคงออกมาดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ปรับเพิ่มขึ้นทำ All time high อีกครั้ง นอกจากนี้ Market Cap ของ Nvidia ยังปรับเพิ่มขึ้นในวันเดียวสูงถึง $277 billion มากที่สุดใน 1 วันนับตั้งแต่จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นต้นมา!

ผลการดำเนินงานของ Nvidia เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง

     Nvidia รายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ $22.10 billion เติบโตสูงถึง +265% YoY ดีกว่าคาดที่ $20.62 billion ซึ่งมีแรงหนุนมาจากยอดขายชิป AI สำหรับเซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะชิป GPU ของบริษัทอย่าง H100 และรายได้รวมทั้งปีที่ผ่านมา อยู่ที่ $60.9 billion ขณะเดียวกันในไตรมาสล่าสุดบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ $12.29 billion เติบโต 769% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $5.16 เติบโตดีกว่าคาดที่ $4.64

     โดยรายได้ที่มาจากธุรกิจ Data Center ยังคงเป็นรายได้หลักที่มีสัดส่วนกว่า 83.2% ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ $18.4 billion โดยรายได้จากส่วนนี้เติบโตราว +409% YoY หนุนจากการใช้งาน AI ที่เติบโตขึ้นทั่วโลก ส่งผลต่อเนื่องมายังการเติบโตของผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ที่ใช้ชิปของบริษัท ขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกิจ Gaming ซึ่งมีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 2 เติบโตได้ +56.47% YoY ซึ่งนับเป็นการกลับมาเติบโตในอัตราที่สูงอีกครั้ง หลังจากช่วงปี 2023 รายได้ในส่วนนี้หดตัวลงจากการลดลงของกิจกรรมการขุดเหรียญ Cryptocurrency

ผู้บริหารยังมองบริษัทยังเติบโตได้ต่อจากความต้องการใช้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     Jensen Huang, CEO และผู้ก่อตั้ง Nvidia ได้กล่าวในช่วงประกาศผลการดำเนินงานว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในส่วนของชิปที่ใช้กับ Generative AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยจุดประกายวัฏจักรการลงทุนใหม่ โดยผู้บริหารของ Nvidia มองว่าการเติบโตของ Generative AI ได้ช่วยให้ความต้องการใช้ Platform Data Center เพิ่มมากขึ้น จากทั้งลูกค้าที่เป็นผู้ให้บริการ Cloud และ ลูกค้าที่เป็นนักพัฒนา Software ระดับองค์กร  โดยคาดว่ารายได้จาก Data Center ของบริษัทจะเติบโตขึ้นสู่ระดับ $47.5 billion ในปี 2024 หรือเติบโต +216% YoY และรายได้รวมในไตรมาสปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ราว $24 billion ซึ่งมากกว่าที่นักเคราะห์ได้ทำการคาดการณ์ไว้

     ซึ่งการคาดการณ์รายได้ในอนาคตที่ยังมีทิศทางเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ได้ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนในประเด็นที่บริษัทจะสามารถรักษาการเติบโตหรือระดับยอดขายไว้ได้ในอนาคตหรือไม่ และทำให้ตลาดกลับมาเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัทอีกครั้ง

ราคาหุ้นของ Nvidia ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแตะที่ระดับ $700

     หลังจากการประกาศผลการดำเนินงานล่าสุด ราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว +16.40% ภายใน 1 วัน โดยปัจจุบันราคาหุ้น Nvidia ขึ้นไปแตะที่ระดับประมาณ $785 แล้ว และนับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวเพิ่มขึ้น +63% และปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง+231.89% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งทางสถาบันการเงินรายใหญ่หลายแห่งยังได้มีการปรับเพิ่มระดับราคาเป้าหมาย (Price Target) ของหุ้น Nvidia อีกด้วย อาทิ JPMorgan ที่ปรับเพิ่ม Price Target มาอยู่ที่ระดับ $850 จากเดิมที่ $650 และ Bank of America ที่ได้ปรับเพิ่มระดับราคาเป้าหมายมาอยู่ที่ $925 จากเดิมที่ $800

     โดยหากหลังจากนี้ Nvidia ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องก็น่าจะทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการเกิดฟองสบู่ในหุ้น AI เริ่มลดน้อยลง อย่างไรก็ดีหากนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและต้องการลงทุนในหุ้นบริษัทอื่น ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ AI เช่นเดียวกัน ก็สามารถทำได้ด้วยการลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายลงหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI นั่นเอง

ที่มา: CNBC, Bloomberg, Reuters, Company Website, App Economy insight