5 คำถามเกี่ยวกับตลาดหุ้นเวียดนาม ที่นักลงทุนอยากรู้มากที่สุดในปี 2024

     ปี 2024 ตลาดหุ้นเวียดนามเริ่มต้นด้วยความสดใส โดยนับตั้งแต่ต้นปีดัชนี VNINDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.58% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้น หลังตลาดคาดว่าปีนี้การเติบโตของสินเชื่อจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมากกว่าปีก่อนหน้าตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับมุมมองเชิงบวกต่อภาคอสังหาฯ หลังภาครัฐออกมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อ

     อย่างไรก็ตามถึงแม้ตลาดหุ้นเวียดนามจะเปิดปีมาอย่างสดใส แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืนในการเติบโตของเวียดนามในปีนี้ว่าจะเติบโตได้อย่างมั่นคงหรือไม่ โดยในบทความนี้จะมาเจาะลึกถึง 5 ประเด็นคำถามสำคัญที่นักลงทุนกำลังให้ความสนใจในตอนนี้

1. เวียดนามจะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวได้หรือไม่?

- ปีนี้ตลาดมองว่าเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะ 2 ประเทศมหาอำนาจ อย่าง สหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเวียดนาม ทำให้ประเด็นนี้ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่อาจกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้ได้
- อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าด้วยปัจจัยหนุนจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ, การบริโภคที่ฟื้นตัว และการเติมสต็อก (restocking) สินค้าเทคโนโลยีทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น จะเป็นตัวช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเวียดนามปี 2024 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 5.9% ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

2. ปี 2024 แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธนาคารในเวียดนามจะดีขึ้นหรือไม่?

- ด้วยภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ได้ปรับลดลงมาแล้วตั้งแต่ปี 2023 และการออกมาตรการสนับสนุนและการปรับแก้ไขกฎหมายด้านอสังหาฯ ของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ได้ช่วยปรับปรุงให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ สามารถกลับมาดำเนินโครงการต่างๆ ต่อได้ง่ายขึ้น

- อย่างไรก็ตามในปี 2024 จะมีหุ้นกู้ภาคอสังหาฯ ที่จะครบกำหนดประมาณ 150 ล้านล้านดองซึ่งมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีนี้ จึงยังคงต้องติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าจะชำระได้ตามกำหนดหรือสามารถเลื่อนระยะเวลาการชำระออกไปได้หรือไม่

- ด้านกลุ่มธนาคาร มองว่ามูลค่าในปัจจุบันมีความน่าสนใจ และคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อนหน้า รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้

3. นโยบาย Global Minimum Tax จะมีผลกระทบอย่างไรต่อมูลค่า FDI ที่ไหลเข้าเวียดนาม?

- Global Minimum Tax เป็นข้อตกลงที่ได้รับการลงนามโดย 136 ประเทศ (คิดเป็นกว่า 90% ของเศรษฐกิจโลก) เพื่อให้บริษัทต่างๆในประเทศสมาชิกต้องเสียภาษีในอัตราขั้นต่ำที่ 15% และทำให้เกิดความเท่าเทียมในมุมภาษีการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ไม่ใช่มีเพียงแค่เวียดนามประเทศเดียวที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว

- ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าด้วยความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันของเวียดนาม ผลกระทบจาก Global Minimum Tax ต่อมูลค่า FDI ที่เข้ามาในเวียดนามจะยังจำกัดในระยะสั้น

- อย่างไรก็ตามในระยะยาว ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อ FDI Flow ของเวียดนาม ซึ่งทางรัฐบาลเวียดนามก็ได้มีแผนที่จะออกมาตรการสนับสนุนให้แก่บริษัทที่เข้ามาลงทุน โดยสนับสนุนในมุมโครงสร้างพื้นฐาน การฝึกอบรมบุคลากร และการขนส่ง เพื่อลดผลกระทบทางภาษีที่บริษัทจะได้รับและสร้างผลประโยชน์เพิ่มเติมให้กับประชากรในวงกว้าง

4. ตลาดหุ้นเวียดนามจะได้รับการอัพเกรดเป็นตลาดเกิดใหม่จริงหรือไม่?

- ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการขั้นสุดท้ายเพื่อยกเลิกข้อกำหนดด้านเงินทุนล่วงหน้า (pre-funding) ผ่านการพัฒนาระบบ KRX ซึ่งเป็นหนึ่งในเกณฑ์สุดท้ายที่สำคัญที่ตลาดหุ้นเวียดนามยังขาด หากต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งในดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ของ FTSE

- โดยทาง FTSE ได้กล่าวแล้วว่าหากระบบ KRX มีความชัดเจนมากขึ้น อาจเริ่มพิจารณาจัดให้ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดเกิดใหม่และเพิ่มตลาดหุ้นเวียดนามเข้าสู่ดัชนีตลาดเกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในรอบทบทวนเดือน ก.ย. 2024 และอาจทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาด $500 Million

- อย่างไรก็ตามระบบ KRX มีแนวโน้มที่จะพัฒนาสำเร็จในช่วงกลางปี หรือช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 ซึ่งล่าช้ากว่าคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะเสร็จในช่วงไตรมาส 1 ซึ่งอาจทำให้รอบการพิจารณานำเวียดนามเข้าดัชนีตลาดเกิดใหม่ของ FTSE เลื่อนไปในรอบทบทวนเดือน มี.ค. 2025

5. ผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2024 เป็นอย่างไร?

- แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในเวียดนามมีแนวโน้มดีขึ้นในปี 2024 รับแรงหนุนจากการ
ฟื้นตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 โดยในปีหน้าจะมีหลายอุตสาหกรรมที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากที่ผลการดำเนินงานในปี 2023 ออกมาแย่

- ตลาดคาดว่าปี 2024 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามโดยรวมจะมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 22.7% YoY และมองเป้าหมายราคาดัชนี VNINDEX สิ้นปี 2024 ที่บริเวณ 1,300-1,350 จุด (หากอ้างอิงจาก Fwd EPS ที่ 117.86, Fwd P/E จะอยู่ที่บริเวณ 11.03-11.45x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 12.05x) อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศยังคงเป็นปัจจัยหลักที่อาจทำให้การเติบโตของหลายๆ บริษัทไม่เป็นไปตามที่คาดได้

- โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักวิเคราะห์มองว่า จะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2024 ได้แก่
1.หุ้นกลุ่มธนาคารที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของสินเชื่อ 2.หุ้นกลุ่มธุรกิจส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มส่งออกสินค้าเทคโนโลยีที่จะได้ประโยชน์จากการเติมสต๊อก (restocking) สินค้าเทคโนโลยี และ 3. หุ้นกลุ่มภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มดีขึ้น

     โดยสรุปแล้วเรามองว่าเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2024 จะสดใสกว่าปี 2023 จากปัญหาภาคอสังหาฯ ที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น และการกลับมาขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับปัจจัยกดดันจากภายนอกที่เบาบางลง หลังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณกลับทิศเป็นขาลง ประกอบกับ valuation ปัจจุบันที่ยังคงเทรดที่ fwd P/E ที่ต่ำเพียง 9.9x และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ด้วยเหตุนี้เรายังคงมีมุมมองบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม นักลงทุนสามารถทยอยเข้าลงทุนได้

ที่มา : CEIC Data, J.P. Morgan, Bloomberg Finance L.P., consensus estimates.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว