
กองทุนแนะนำประจำสัปดาห์
วันที่ 8 – 12 กรกฎาคม 2567
TEMxCH*
กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ไชน่า
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Emerging Markets ex-China Equity ชนิดหน่วยลงทุน C-Acc (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ระดับความเสี่ยง 6 (ความเสี่ยงสูง)
มุมมองการลงทุน
📌 โอกาสการลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศ Emerging Markets ที่ไม่รวมประเทศจีน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการผลิต Chip ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี AI อย่างประเทศไต้หวันและเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลประเทศเหล่านี้ต่างมีการออกนโยบายสนับสนุนให้อุตสาหกรรมชิปเป็นอุตสาหกรรมหลักของชาติ โดยล่าสุด Alphabet ประกาศที่จะหันมาใช้ชิป 3nm ของ TSMC มากขึ้นในปี 2025 เนื่องจากเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงและตอบโจทย์สำหรับการใช้งานคู่กับ AI
📌 โอกาสในการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจยังคงเติบโตในระดับที่สูงและมีประชากรวัยทำงานอันดับต้นๆ ของโลก อย่างประเทศอินเดีย เวียดนามและอินโดนีเซีย โดยล่าสุดตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของเวียดนามออกมาขยายตัว 6.93% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาด หนุนโดยภาคการส่งออก และภาคการผลิต ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
📌 จากสถิติในอดีต ช่วงที่ดอลลาร์อ่อนค่า หุ้นกลุ่มประเทศ Emerging Markets จะปรับตัวขึ้นได้ดี ซึ่งเรามองว่าปัจจุบันเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนหุ้นกลุ่มดังกล่าว จากทิศทางแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่กำลังเป็นทิศทางขาลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่า ล่าสุด ตลาดเริ่มกลับมามองว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยได้ถึง 2 ครั้งในปีนี้
📌 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Emerging Markets ex-China Equity ชนิดหน่วยลงทุน C-Acc (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายลงทุนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่จัดตั้งในกลุ่มประเทศ Emerging Markets ซึ่งไม่รวมประเทศจีนหรือบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งนอกกลุ่มประเทศ Emerging Markets แต่ดำเนินธุรกิจหลักอยู่ในกลุ่มประเทศ Emerging Markets ซึ่งไม่รวมประเทศจีน
TGBOND*
กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล บอนด์
ลงทุนในกองทุน BNY Mellon Global Credit Class USD W (Acc.) (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายลงทุนอย่างน้อย 50% ในตราสารหนี้ภาคเอกชนทั่วโลก ส่วนที่เหลือกองทุนหลักจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ภาครัฐ ทั้งนี้ กองทุนหลักบริหารและจัดการโดย BNY Mellon Fund Management (Luxembourg) S.A.
ระดับความเสี่ยง 5 (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง)
มุมมองการลงทุน
📌 โอกาสการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกหลังตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับตลาดแรงงานออกมาแผ่วลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการปรับลดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก่อนหน้าลง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทำให้นักลงทุนคาดโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. นี้เพิ่มมากขึ้น และถ้าเงินเฟ้อชะลอต่อก็อาจทำให้ปีนี้ Fed อาจปรับลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้ง
📌 เรามองว่า ปี 2024 เป็นปีทองของการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก ในยุคที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มที่จะปรับลงในอนาคต ประกอบกับสัญญาณจาก Credit Spread (ส่วนต่างของผลตอบแทนระหว่างหุ้นกู้บริษัทเอกชน และพันธบัตรรัฐบาล) เริ่มมีการปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่ได้รับการจัด Credit Rating อยู่ในระดับที่น่าลงทุน (Investment Grade)
📌 โดยเรามองเห็นโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าจากการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดี ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง มีการกระจายการลงทุนไปหลายประเทศทั่วโลก และยังเป็นโอกาสลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญการคัดเลือกหุ้นกู้ระดับโลก ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น
📌 มองว่าจังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมกองทุน TGBOND ในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 4.29%
คำเตือน
- *กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน