เทศกาลคนโสดคึกคัก งบบริษัทกลับมาโตดี ส่งสัญญาณบริโภคจีนฟื้น


     หลังจากผ่านช่วง Golden Week ในเดือน ต.ค. ภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวของจีนก็ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงเดือน พ.ย. จีนมีการจัดเทศกาลวันคนโสด 11 เดือน 11 (11.11) ซึ่งเป็นเทศกาล Shopping Online ที่สำคัญเทศกาลหนึ่งของจีน โดยในอดีตงานเทศกาลดังกล่าว จะมีเพียงบริษัท E-commerce จีนที่จะออกโปรโมชั่นลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในวันที่ 11 พ.ย. เพียงวันเดียว แต่นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา บริษัท จีนที่ทำธุรกิจออนไลน์อื่นๆ ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในเทศกาลดังกล่าวและเริ่มมีการขยายระยะเวลาของเทศกาลในการลดราคาจากเดิมที่มีเพียงแค่วันเดียวเปลี่ยนเป็นเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ย. หรือบางบริษัทมีการเริ่มเทศกาลตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค. 

     โดยในปีนี้ตลาดคาดว่าตัวเลขยอดขายออนไลน์รวมสะสม (Cumulative Gross Merchandise Volume: GMV) จะเพิ่มขึ้น 2.08% YoY แตะระดับ 1.14 ล้านล้านหยวน โดยรับอานิสงค์จากการขยายระยะเวลาเทศกาลลดราคาของบริษัทต่างๆ รวมถึงการเข้ามาของ Short Video ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับหลายบริษัท อาทิ PDD, Douyin (TikToK) และ Kuaishou เป็นต้น 

     เทศกาลนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการประกาศยอดขายออนไลน์รวมสะสมอย่างเป็นทางการ แต่จากข้อมูลที่บริษัทได้มีการปล่อยออกมาบางส่วนก็ทำให้ตลาดคาดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนยังฟื้นตัว โดยตัวอย่างข้อมูลที่ออกมามีดังนี้

  • Taobao และ Tmall ของ Alibaba ระบุว่ากลยุทธ์การลดราคา 15% ช่วง 24 ต.ค. – 11 พ.ย. ทำให้มียอดคำสั่งซื้อถึง 210 ล้านครั้ง และทำให้ตัวเลขยอดขายออนไลน์สะสมรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
  • JD.com ระบุว่าบริษัทมียอดขายสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีมากกว่า 60 แบรนด์ที่มียอดขายเกิน ¥1 billon รวมทั้งมีเกือบ 20,000 แบรนด์ที่รายงานปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 3 เท่า
  • บริษัทขนส่งของจีนระบุว่ามีการจัดส่งพัสดุ 639 ล้านชิ้น ทั่วประเทศเฉพาะในวันที่ 11 พ.ย. เพิ่มขึ้น 16% YoY และยอดจัดส่งพัสดุรวมตั้งแต่ต้น 1-11 พ.ย. เพิ่มขึ้น 23% YoY

     นอกจากนี้เดือน พ.ย. ยังเป็นเดือนที่บริษัท China Internet หลายแห่งประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมา โดยล่าสุดมีบริษัท China Internet รายใหญ่ที่ได้ประกาศออกมาแล้ว 4 บริษัท ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ E-Commerce อย่าง Alibaba, JD.com และกลุ่มธุรกิจ Gaming อย่าง Tencent, NetEase โดยรายละเอียดของผลประกอบการแต่ละบริษัทมีดังนี้

Alibaba ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด เติบโตทุกธุรกิจ แต่หุ้นปรับลงหลังยกเลิก IPO Cloud

     Alibaba รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2023 มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% YoY อยู่ที่ ¥224.79 billion สูงกว่าที่คาดที่ ¥224.09 billion และกำไรพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรที่ ¥27.7 billion

     โดยผลประกอบการของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น นำโดยรายได้ค้าปลีกออนไลน์ภายในประเทศที่ยังเติบโตแม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตชะลอตัวลง เนื่องจากบริษัทมีการนำ AI เข้ามาใช้ในการคัดเลือกสินค้าเพื่อนำเสนอประเภทสินค้าและราคาที่หลากหลายให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้รายได้ธุรกิจ Local Service (Ele.me และ Amap) ก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็ยังได้รับความนิยมสูง

     ด้านรายได้ธุรกิจ Cloud เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยบริษัทยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาระบบและประเมินมูลค่าโครงการที่ทำเพื่อลดโครงการที่ได้กำไรน้อยและเพิ่มคุณภาพของรายได้ ทั้งนี้บริษัทได้มีการประกาศยกเลิกแผนการแยกธุรกิจ Cloud ออกจากบริษัทอย่างเต็มตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะสหรัฐฯ มีการออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ซึ่งทำให้บริษัทได้รับผลกระทบในการจัดหาชิป

     รวมทั้งบริษัทยังมีการพักแผนการ IPO Freshippo ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเช่นกัน อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงดำเนินการเตรียม IPO Cainiao บริษัท Logistics ในฮ่องกง สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงเน้นการลงทุนในธุรกิจ AI

JD.com ผลประกอบการดีกว่าคาด ปรับกลยุทธ์ขายสินค้าทั่วไปมากขึ้น

     JD.com รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2023 มีรายได้เพิ่มขึ้น 2% YoY อยู่ที่ ¥247.7 billion สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ ¥246.6 billion และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น +40% YoY อยู่ที่ ¥5.0

     โดยรายได้ธุรกิจ Retail ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท (85% ของรายได้ทั้งหมด) เติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้วอยู่ที่ ¥212.1 billion โดยมีผลกระทบมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลงมากกว่าคาด ซึ่งกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้บริษัทได้มีการปรับใช้กลยุทธ์ด้วยการเสนอสินค้าและระดับราคาที่มีความหลากหลายมากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่สินค้าทั่วไปมากขึ้น แทนที่สินค้าราคาแพง

     โดยผู้บริหารกล่าวว่าการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ ทำไปเพื่อให้สินค้าที่เสนอสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดที่เสียไปคืน โดยในช่วงเทศกาล 11.11 ที่ผ่านมา บริษัทระบุว่ายอดขายเพิ่มสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะสะท้อนในผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4

Tencent รายได้ธุรกิจเกมและโฆษณายังเติบโตแข็งแกร่ง และกำไรดีกว่าคาด

    Tencent รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2023 โดยมีรายได้เติบโต 10% YoY อยู่ที่ ¥154.6 billion และมีกำไรต่อหุ้น (Non-IFRS) เติบโต 41% YoY อยู่ที่ ¥4.66 มากกว่าที่ตลาดคาด

     โดยรายได้จากธุรกิจเกมยังคงเติบโตต่อเนื่อง นำโดยรายได้เกมในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 14% YoY โดยได้รับความนิยมจากเกมที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วอย่างเกม Nikke และ Tower of Fantasy ด้านรายได้เกมในประเทศเพิ่มขึ้น 5% YoY โดยได้รับอานิสงค์จากการที่ภาครัฐเริ่มกลับมาอนุมัติเกมใหม่

     ด้านรายได้จากธุรกิจโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้น 20% YoY รับปัจจัยหนุนจำนวนบัญชีผู้ใช้งาน  Wechat’s video ที่เพิ่มขึ้นมากถึง 50% จากการที่มีจำนวนคนที่ดูทั้งวีดีโอสั้นและยาวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งได้ประโยชน์มาจากซีรี่ย์จีน, รายการวาไรตี้ รวมถึงรายการกีฬาเป็นที่สนใจมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Fintech มีรายได้เพิ่มขึ้น 16% YoY โดยได้แรงหนุนมาจากการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมการชำระเงิน

     ล่าสุดบริษัทได้มีการวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนใน Model AI เพื่อพัฒนา Generative AI ของบริษัทอย่าง Hunyuan ขึ้นมา รวมทั้งผู้บริหารก็ออกมาให้สัญญาณว่าบริษัทอาจมีการซื้อหุ้นคืน

NetEase กำไรเพิ่มขึ้นดีกว่าคาด หนุนจากความนิยมของเกมเก่าและเกมใหม่

     NetEase ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 รายได้เพิ่มขึ้น 11.6% YoY อยู่ที่ ¥27.27 Billion ใกล้เคียงกับที่คาดที่ ¥27.25 Billion ด้านกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 18.6% YoY อยู่ที่ ¥12.06

     โดยรายได้ธุรกิจเกมซึ่งเป็นรายได้หลักเพิ่มขึ้น 16.5% YoY รับอานิสงส์จากความนิยมของเกมมือถือใหม่ทั้งเกมเก่าและเกมใหม่ โดยเกมใหม่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ เกม Justice ที่มียอดผู้สมัครเล่นมากกว่า 50 ล้านไอดี และเกม Dunk City Dynasty เกมบาสเกตบอลเกมแรกที่บริษัทพัฒนาขึ้นมา

     ด้ายรายได้ธุรกิจอื่นๆ อย่าง Youdao ที่เป็นธุรกิจ Search Engine เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของ Learning Service และ Marketing Services ขณะที่รายได้จากธุรกิจ Cloud Music ลดลงจากการที่บริษัทหันมาเก็บค่าบริการสมาชิก

     ผู้บริหารกล่าวว่าหลังจากนี้บริษัทจะใช้จุดเด่นในเรื่องการวิจัยและพัฒนาเกมให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการพัฒนาเกมใหม่ที่มีความหลากหลายออกมาเรื่อยๆ โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวเกมใหม่จำนวนมากในปี 2024 เพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์แนวเกมใหม่จากของบริษัท
 

     โดยภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่ม China Internet ออกมาขยายตัวและดีกว่าคาด รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมของภาครัฐ รวมถึงการเข้ามาของคลิปวิดีโอสั้นและ AI ที่เป็นตัวช่วยหนุนให้ผลประกอบการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

     เรามองว่าในช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่ม China Internet ได้มีการปรับตัวลง รับปัจจัยลบจากความผิดหวังเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากกว่าคาดและความสัมพันธ์ที่ตึงตัวระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไปพอสมคารแล้ว และด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงระดับValuation ที่ลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้มองว่า ณ ระดับราคาดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่น่าขาย และเป็นจุดที่น่าเข้าสะสมหุ้นกลุ่ม China Internet โดยเฉพาะผู้ลงทุนใหม่หรือผู้ที่มีสัดส่วนหุ้นจีนน้อย โดยกลุ่มที่เราคาดว่าจะขยายตัวแข็งแกร่งเป็นพิเศษจะเป็นบริษัทกลุ่ม E-commerce ที่มีความเกี่ยงข้องกับภาคการบริโภคโดยตรง เห็นได้จากตัวเลขการบริโภคที่ออกมาดีต่อเนื่องทั้งในช่วงวันหยุดยาวเดือนตุลาคมต่อเนื่องมาถึงเทศกาลคนโสด 11.11 ในเดือนพฤศจิกายน นั่นเอง

ที่มา: Syntun, Bain analysis, Goldman Sachs Global Investment Research, Bloomberg, company presentation

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว