/
/
/
/
TISCO ESU Morning View ประจำวันที่ 30 ม.ค. 67

TISCO ESU Morning View ประจำวันที่ 30 ม.ค. 67

/
/
/
/
TISCO ESU Morning View ประจำวันที่ 30 ม.ค. 67

TISCO ESU Morning View ประจำวันที่ 30 ม.ค. 67

Summary

      • (30-31 ม.ค.) คาด Fed มีแนวโน้มที่จะกลับมาแสดงท่าที Hawkish มากขึ้น หลังดัชนีภาวะการเงิน (Financial Condition Index) กลับมาผ่อนคลายแตะระดับ 0.6 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เคยกระตุ้นให้ Fed มีท่าที Hawkish เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่ง Fed มีโอกาสที่จะส่งสัญญาณว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ต้องลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ และให้ติดตามพัฒนาการของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อไป ขณะเดียวกัน เรามองว่า Fed จะพยายามคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเอาไว้ให้นานที่สุด ก่อนจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 2H24F ไม่น้อยกว่า 50bps ซึ่งจากมุมมองของตลาดที่คาดราว -125bps อาจมีความแข็งกร้าวเกินไป ทำให้ในระยะสั้น US10Y Yield มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ 

      • (เดือน ม.ค.) ติดตามความคืบหน้าของการยื่นเสนอร่างฯ พ.ร.บ. เงินกู้ 5 แสนล้านบาทสำหรับโครงการ Digital Wallet ซึ่งเรามองว่ามาตรการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยประเด็นเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนอาจเป็นข้อจำกัดที่ทำให้มีการยื่นเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ 

      • (1 ก.พ.) การประชุมย่อยในระดับรัฐมนตรีของกลุ่ม OPEC (Joint Ministerial Monitoring Committee: JMMC) ครั้งที่ 52 ซึ่งคาดว่าจะมีเพียงการรายงานเพื่อทบทวนอัตราการผลิตน้ำมันดิบของประเทศสมาชิกในระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2023 เทียบกับปริมาณโควต้า และคาดว่าจะมีการลงมติยืนยันการคงระดับเป้าหมายการผลิตน้ำมันดิบทั้งอย่างเป็นทางการ (Official quota) และการปรับลดการผลิตเพิ่มเติมโดยสมัครใจของสมาชิกบางประเทศ (Quasi-official quota) ที่ตกลงกันในการประชุมเมื่อเดือน เม.ย. และ พ.ย. 2023 ไปจนถึงสิ้นปี 2024 

      • (1 ก.พ.) ติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินจาก BoE และการให้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตจากประธาน BoE เพื่อพิจารณาแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษ เบื้องต้นเราคาดว่า BoE จะยังคงมีท่าทีที่เข้มงวด เนื่องจากอัตราการเติบโตของค่าจ้างแรงงานในอังกฤษอยู่ที่ระดับสูง อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่า BoE จะเริ่มส่งสัญญาณถึงแนวทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้ โดยมองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งสิ้น 100 bps (จากระดับ 5.25% ในปัจจุบัน) โดยตลาดคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. 

      • (7 ก.พ.) คาด กนง. มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ตามเดิม แม้กระแสแรงต้านจะเพิ่มขึ้นจากหลายภาคส่วนให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเรามองจากท่าทีของ กนง. ที่ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% เป็นระดับที่เหมาะสมกับสเถียรภาพของระบบการเงินและไม่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Neutral) อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 2 และยังมีความเสี่ยงด้านสูงอยู่อีกหลายปัจจัย จึงยังคงมองว่า กนง. จะรอคอยพัฒนาการในด้านต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ดี แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในประเทศมีความเสี่ยงด้านต่ำต่อประมาณการเดิมมากขึ้นจึงอาจนำไปสู่การพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 

      • (24 ก.พ.) ติดตามผลการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐ South Carolina ซึ่งคาดว่าจะเป็นศึกชี้ชะตาตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรค Republican โดยเราคาดว่าอดีต ประธานาธิบดี Donald Trump น่าจะเป็นตัวเต็งผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจาก Republican ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ Joe Biden ในศึกการเลือกตั้งทั่วไป เดือน พ.ย. นี้ 

    • (เดือน ก.พ.) ติดตามการเจรจาของวุฒิสมาชิกและสภาผู้แทนราษฏรระหว่างทั้งสองพรรคในการบรรลุข้อตกลงทางการคลังเพื่อหลีกเลี่ยง Government Shutdown ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านร่างฯ งบประมาณชั่วคราวไปแล้วในวันที่ 18 ม.ค. ในวงเงินเกี่ยวกับการช่วยเหลือทหารผ่านศึกและบริการความปลอดภัยด้านอาหารและยา (ประมาณ 20% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด) ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่วงเงินอื่นๆ อาทิ กลาโหม, พาณิชย์ และอื่นๆ (ราว 80% ของงบประมาณทั้งหมด) จะครบกำหนดที่เคยได้รับการอนุมัติให้ยืดเวลาชั่วคราวออกไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. 2024

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
    ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

    รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว

        • ยุโรป: GDP ไตรมาส 4/2023 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน ม.ค.  

        • สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน ม.ค. 

      Upcoming Events

        • (30-31 ม.ค.) คาด Fed มีแนวโน้มที่จะกลับมาแสดงท่าที Hawkish มากขึ้น หลังดัชนีภาวะการเงิน (Financial Condition Index) กลับมาผ่อนคลายแตะระดับ 0.6 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เคยกระตุ้นให้ Fed มีท่าที Hawkish เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่ง Fed มีโอกาสที่จะส่งสัญญาณว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ต้องลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ และให้ติดตามพัฒนาการของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อไป ขณะเดียวกัน เรามองว่า Fed จะพยายามคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเอาไว้ให้นานที่สุด ก่อนจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 2H24F ไม่น้อยกว่า 50bps ซึ่งจากมุมมองของตลาดที่คาดราว -125bps อาจมีความแข็งกร้าวเกินไป ทำให้ในระยะสั้น US10Y Yield มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ 

        • (เดือน ม.ค.) ติดตามความคืบหน้าของการยื่นเสนอร่างฯ พ.ร.บ. เงินกู้ 5 แสนล้านบาทสำหรับโครงการ Digital Wallet ซึ่งเรามองว่ามาตรการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยประเด็นเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนอาจเป็นข้อจำกัดที่ทำให้มีการยื่นเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ 

        • (1 ก.พ.) การประชุมย่อยในระดับรัฐมนตรีของกลุ่ม OPEC (Joint Ministerial Monitoring Committee: JMMC) ครั้งที่ 52 ซึ่งคาดว่าจะมีเพียงการรายงานเพื่อทบทวนอัตราการผลิตน้ำมันดิบของประเทศสมาชิกในระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2023 เทียบกับปริมาณโควต้า และคาดว่าจะมีการลงมติยืนยันการคงระดับเป้าหมายการผลิตน้ำมันดิบทั้งอย่างเป็นทางการ (Official quota) และการปรับลดการผลิตเพิ่มเติมโดยสมัครใจของสมาชิกบางประเทศ (Quasi-official quota) ที่ตกลงกันในการประชุมเมื่อเดือน เม.ย. และ พ.ย. 2023 ไปจนถึงสิ้นปี 2024 

        • (1 ก.พ.) ติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินจาก BoE และการให้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตจากประธาน BoE เพื่อพิจารณาแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษ เบื้องต้นเราคาดว่า BoE จะยังคงมีท่าทีที่เข้มงวด เนื่องจากอัตราการเติบโตของค่าจ้างแรงงานในอังกฤษอยู่ที่ระดับสูง อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่า BoE จะเริ่มส่งสัญญาณถึงแนวทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้ โดยมองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งสิ้น 100 bps (จากระดับ 5.25% ในปัจจุบัน) โดยตลาดคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. 

        • (7 ก.พ.) คาด กนง. มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ตามเดิม แม้กระแสแรงต้านจะเพิ่มขึ้นจากหลายภาคส่วนให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเรามองจากท่าทีของ กนง. ที่ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% เป็นระดับที่เหมาะสมกับสเถียรภาพของระบบการเงินและไม่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Neutral) อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 2 และยังมีความเสี่ยงด้านสูงอยู่อีกหลายปัจจัย จึงยังคงมองว่า กนง. จะรอคอยพัฒนาการในด้านต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ดี แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในประเทศมีความเสี่ยงด้านต่ำต่อประมาณการเดิมมากขึ้นจึงอาจนำไปสู่การพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 

        • (24 ก.พ.) ติดตามผลการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐ South Carolina ซึ่งคาดว่าจะเป็นศึกชี้ชะตาตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรค Republican โดยเราคาดว่าอดีต ประธานาธิบดี Donald Trump น่าจะเป็นตัวเต็งผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจาก Republican ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ Joe Biden ในศึกการเลือกตั้งทั่วไป เดือน พ.ย. นี้ 

      • (เดือน ก.พ.) ติดตามการเจรจาของวุฒิสมาชิกและสภาผู้แทนราษฏรระหว่างทั้งสองพรรคในการบรรลุข้อตกลงทางการคลังเพื่อหลีกเลี่ยง Government Shutdown ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านร่างฯ งบประมาณชั่วคราวไปแล้วในวันที่ 18 ม.ค. ในวงเงินเกี่ยวกับการช่วยเหลือทหารผ่านศึกและบริการความปลอดภัยด้านอาหารและยา (ประมาณ 20% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด) ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่วงเงินอื่นๆ อาทิ กลาโหม, พาณิชย์ และอื่นๆ (ราว 80% ของงบประมาณทั้งหมด) จะครบกำหนดที่เคยได้รับการอนุมัติให้ยืดเวลาชั่วคราวออกไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. 2024

      สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
      ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

      รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว

          • ตลาด: นักเก็งกำไรเข้าซื้อสุทธิน้ำมันดิบขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เคลื่อนไหวในกรอบ 72-75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สะท้อน Sentiment ที่ปรับตัวดีขึ้น 

        Today’s Data Releases

          • ยุโรป: GDP ไตรมาส 4/2023 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน ม.ค.  

          • สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน ม.ค. 

        Upcoming Events

          • (30-31 ม.ค.) คาด Fed มีแนวโน้มที่จะกลับมาแสดงท่าที Hawkish มากขึ้น หลังดัชนีภาวะการเงิน (Financial Condition Index) กลับมาผ่อนคลายแตะระดับ 0.6 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เคยกระตุ้นให้ Fed มีท่าที Hawkish เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่ง Fed มีโอกาสที่จะส่งสัญญาณว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ต้องลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ และให้ติดตามพัฒนาการของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อไป ขณะเดียวกัน เรามองว่า Fed จะพยายามคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเอาไว้ให้นานที่สุด ก่อนจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 2H24F ไม่น้อยกว่า 50bps ซึ่งจากมุมมองของตลาดที่คาดราว -125bps อาจมีความแข็งกร้าวเกินไป ทำให้ในระยะสั้น US10Y Yield มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ 

          • (เดือน ม.ค.) ติดตามความคืบหน้าของการยื่นเสนอร่างฯ พ.ร.บ. เงินกู้ 5 แสนล้านบาทสำหรับโครงการ Digital Wallet ซึ่งเรามองว่ามาตรการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยประเด็นเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนอาจเป็นข้อจำกัดที่ทำให้มีการยื่นเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ 

          • (1 ก.พ.) การประชุมย่อยในระดับรัฐมนตรีของกลุ่ม OPEC (Joint Ministerial Monitoring Committee: JMMC) ครั้งที่ 52 ซึ่งคาดว่าจะมีเพียงการรายงานเพื่อทบทวนอัตราการผลิตน้ำมันดิบของประเทศสมาชิกในระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2023 เทียบกับปริมาณโควต้า และคาดว่าจะมีการลงมติยืนยันการคงระดับเป้าหมายการผลิตน้ำมันดิบทั้งอย่างเป็นทางการ (Official quota) และการปรับลดการผลิตเพิ่มเติมโดยสมัครใจของสมาชิกบางประเทศ (Quasi-official quota) ที่ตกลงกันในการประชุมเมื่อเดือน เม.ย. และ พ.ย. 2023 ไปจนถึงสิ้นปี 2024 

          • (1 ก.พ.) ติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินจาก BoE และการให้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตจากประธาน BoE เพื่อพิจารณาแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษ เบื้องต้นเราคาดว่า BoE จะยังคงมีท่าทีที่เข้มงวด เนื่องจากอัตราการเติบโตของค่าจ้างแรงงานในอังกฤษอยู่ที่ระดับสูง อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่า BoE จะเริ่มส่งสัญญาณถึงแนวทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้ โดยมองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งสิ้น 100 bps (จากระดับ 5.25% ในปัจจุบัน) โดยตลาดคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. 

          • (7 ก.พ.) คาด กนง. มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ตามเดิม แม้กระแสแรงต้านจะเพิ่มขึ้นจากหลายภาคส่วนให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเรามองจากท่าทีของ กนง. ที่ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% เป็นระดับที่เหมาะสมกับสเถียรภาพของระบบการเงินและไม่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Neutral) อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 2 และยังมีความเสี่ยงด้านสูงอยู่อีกหลายปัจจัย จึงยังคงมองว่า กนง. จะรอคอยพัฒนาการในด้านต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ดี แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในประเทศมีความเสี่ยงด้านต่ำต่อประมาณการเดิมมากขึ้นจึงอาจนำไปสู่การพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 

          • (24 ก.พ.) ติดตามผลการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐ South Carolina ซึ่งคาดว่าจะเป็นศึกชี้ชะตาตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรค Republican โดยเราคาดว่าอดีต ประธานาธิบดี Donald Trump น่าจะเป็นตัวเต็งผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อจาก Republican ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ Joe Biden ในศึกการเลือกตั้งทั่วไป เดือน พ.ย. นี้ 

        • (เดือน ก.พ.) ติดตามการเจรจาของวุฒิสมาชิกและสภาผู้แทนราษฏรระหว่างทั้งสองพรรคในการบรรลุข้อตกลงทางการคลังเพื่อหลีกเลี่ยง Government Shutdown ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านร่างฯ งบประมาณชั่วคราวไปแล้วในวันที่ 18 ม.ค. ในวงเงินเกี่ยวกับการช่วยเหลือทหารผ่านศึกและบริการความปลอดภัยด้านอาหารและยา (ประมาณ 20% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด) ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่วงเงินอื่นๆ อาทิ กลาโหม, พาณิชย์ และอื่นๆ (ราว 80% ของงบประมาณทั้งหมด) จะครบกำหนดที่เคยได้รับการอนุมัติให้ยืดเวลาชั่วคราวออกไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. 2024

        สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
        ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

        รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว

        สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
        ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

        รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว

        Scroll to Top
        บริการออนไลน์
        กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
        กองทุนรวม

        เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

        ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

        คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

        ยอมรับทั้งหมด
        จัดการความเป็นส่วนตัว
        • คุกกี้ที่จำเป็น
          เปิดใช้งานตลอด

          ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
          รายละเอียดคุกกี้

        • คุกกี้ที่จำเป็น

          ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

        บันทึก