
ผลการประชุม FOMC ในเดือนกรกฎาคม 2024 Fed ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 5.25%-5.5% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน แต่ใน Fed Statement มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจดังนี้ 1. การเพิ่มขึ้นของตลาดแรงงานจากเคยมองว่าแข็งแกร่ง “Strong” ปรับเป็น “Moderate” 2. ลดความกังวลกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แต่กลับให้น้ำหนักกับตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเรามองว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่คณะกรรมการ Fed เตรียมพิจารณาที่จะปรับมุมมองดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่วัฏจักรผ่อนคลาย
นอกจากนี้ภายหลังจากการประชุม นาย Jerome Powell (ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยเป็นการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายอย่างชัดเจน ทำให้ตลาดเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับในเชิงบวกมากขึ้น โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมี 3 ประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
1. ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
o Powell ระบุเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเข้าสู่จุดที่เหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยคณะกรรมการจะพิจารณาการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมในเดือน ก.ย.หากข้อมูลเศรษฐกิจ (การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ) สนับสนุน
2. มุมมองอัตราเงินเฟ้อ และ ตลาดแรงงาน
o อัตราเงินเฟ้อปรับลงอย่างมากจากจุดสูงสุด โดยอัตราเงินเฟ้อ Core PCE ซึ่งเป็นเป้าหมายของ Fed ล่าสุดที่ 2.6% ซึ่งเชื่อว่าจะทยอยปรับลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ขณะที่ตลาดแรงงานกลับเข้าสู่สภาวะใกล้เคียงกับช่วงก่อน Covid ระบาด โดย Powell เชื่อว่าสถานการณ์ตลาดแรงงานเช่นนี้ จะไม่นำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่จะกลับมาเร่งตัวขึ้นได้อีก
3. ความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวกลับมาชะลอตัว?
o Powell มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยคาดหวังต่อเศรษฐกิจจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลงหรือ Soft Landing
o มีคำถามจากนักข่าวว่า อัตราว่างงานที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นจะนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอย(recession) หรือไม่ – Powell ให้ความเห็นที่น่าสนใจดังนี้ 1. มองว่าตลาดแรงงานกำลังอยู่ในช่วงปรับสมดุลให้เข้าสู่ภาวะปกติ มากกว่าที่จะเป็นสัญญาณบ่งชึ้ว่าเศรษฐกิจกำลังจะถดถอย และ 2. หากตลาดแรงงาน เริ่มส่งสัญญาณเชิงลบ Fed ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้เข้ากับสถานการณ์
แม้ถ้อยแถลงของนาย Jerome Powell ในครั้งนี้ จะไม่ได้ระบุโดยตรงว่าจะมีการลดดอกเบี้ย แต่การสื่อสารในครั้งนี้ก็มีความผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้ Fed Fund Future ประเมินโอกาสในการลดดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 1 ส.ค. ตลาดให้น้ำหนักว่า Fed จะมีการลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ โดยให้น้ำหนักFed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. อยู่ที่ 70.5% เพิ่มขึ้นจากช่วง 1 เดือนที่แล้วที่ให้น้ำหนักเพียง 59%
ซึ่งหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ปรับลดลงจริงตามที่ตลาดคาด ต้นทุนทางการเงินก็จะลดลง และจะเป็นแรงหนุนที่สำคัญให้เศรษฐกิจ รวมถึงผลประกอบการบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี AI และ REITs เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากต้นทุนการดำเนินงานหรือการกู้ยืมที่ลดลง ทำให้กิจการสามารถขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ เรามองว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่นกลุ่ม Emerging Market ex China ก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับโยชน์จากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า
Source: Bloomberg