
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกจากไต้หวัน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่า Market Cap สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก มีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นทะลุระดับ $1 trillion ในช่วงระหว่างเวลาวันทำการได้สำเร็จ ก่อนที่จะย่อลงมาเล็กน้อยปิดที่ระดับ $956 billion รับปัจจัยหนุนจากการที่ตลาดมองว่า TSMC เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี AI รวมถึงมีหลายสถาบันการเงินอย่าง Morgan Stanley และ JPMorgan ออกมาปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย
โดยการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ราคาหุ้น TSMC ปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 75.7% นับตั้งแต่ต้นปี (as of 6 ก.ค. 24) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกของนักวิเคราะห์ต่อบริษัทในระยะข้างหน้า โดยทาง Morgan Stanley กล่าวว่า เหตุผลการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายในครั้งนี้ คือการที่ TSMC มีปัจจัยสนับสนุนหลายประเด็นที่น่าจะช่วยให้บริษัทมีผลการดำเนินงานในไตรมาสถัดๆ ไป ออกมาดีกว่าที่บริษัทและตลาดเคยได้เคยคาดไว้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์ของ TSMC เป็นที่ต้องการ – โดย TSMC ถือเป็น Supplier ชิปที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ของ Apple และ Nvidia รวมทั้งยังเป็นที่นิยมสำหรับบริษัทผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI จากความสามารถในการผลิตชิปคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการในการพัฒนา AI ทำให้ความต้องการชิปจาก TSMC มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางการเติบโตที่ต่อเนื่องของเทคโนโลยี AI
- TSMC มีความสามารถในการขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ – ในช่วงที่ผ่านมา TSMC เริ่มมีการส่งสัญญาณว่าอุปทานชิปของบริษัทในปี 2025 จะเริ่มตึงตัว และอาจส่งผลให้ลูกค้าอาจไม่ได้รับการจัดสรรสินค้าที่เพียงพอ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า TSMC อาจใช้เหตุผลดังกล่าวมาปรับขึ้นราคาแผงวงจร Wafer ถึง 10-20% ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้และอัตรากำไรของบริษัทให้เพิ่มขึ้น
- ประเด็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและไต้หวัน – เป็นอีกประเด็นที่นักลงทุนมองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่อาจทำให้อุปทานชิปจาก TSMC ลดลง แต่ในทางกลับกันก็ถือเป็นด้านบวกที่อาจส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ของ TSMC ปรับตัวขึ้นได้
โดยล่าสุด TSMC ได้ออกมารายงานยอดขายของเดือน มิ.ย. ซึ่งปรากฎว่าสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นถึง+33% YoY อยู่ที่ T$207.87 billion ($6.42 billion) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และส่งผลให้รายได้รวมในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น +40% YoY อยู่ที่ T$673.51 billion โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของยอดขายชิปประมวลผลที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีลูกค้าหลักจากบริษัทชิปประมวลผลรายใหญ่อย่าง Nvidia, Apple, AMD และ Qualcomm เป็นต้น
หลังจากนี้ปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าติดตามและน่าจะส่งผลกับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TSMC ก็คือการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 อย่างเป็นทางการของ TSMC ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยหนุนหนึ่งที่จะทำให้มูลค่า Market Cap ของบริษัทปิดทะลุเกินระดับ $1 trillion ได้อีกครั้ง
การที่ TSMC มี Market Cap เพิ่มขึ้นแตะระดับสำคัญที่ $1 trillion ได้สำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่าความนิยมของ AI ไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนต่อบริษัท NVIDIA ซึ่งเป็นเจ้าตลาด AI ของโลก เพียงบริษัทเดียว แต่ AI ยังหนุนให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง อย่าง TSMC ที่เป็นเจ้าตลาดชิปของโลก ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
โดยเราเชื่อว่าในอนาคตจะมีอีกหลายอุตสาหกรรมที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากพัฒนาการของ AI ด้วยเหตุนี้สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น Technology หรือประเทศที่ให้ความสำคัญกับพัฒนาการของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น เกาหลีและไต้หวัน ต่างก็เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในระยะยาว เพื่อเกาะไปกับกระแสการเติบโตของนวัตกรรม AI ซึ่งเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในปัจจุบันและอนาคต
Source: Bloomberg, CNBC