/
/
/
/
2 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อกลุ่ม US Finance ในสัปดาห์นี้

2 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อกลุ่ม US Finance ในสัปดาห์นี้

ในปี 2025 หนึ่งในหุ้นกลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้นเป็นพิเศษ คือ กลุ่มบริษัทการเงินสหรัฐฯ (US Finance) ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายของ Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และในสัปดาห์นี้จะมี 2 ปัจจัยหลักสำคัญ ที่จะส่งผลต่อราคาหุ้นกลุ่มนี้

 สำหรับปัจจัยแรก ได้แก่ เหตุการณ์ไฟป่าหลายแห่งใน Los Angelis (LA) ประเทศสหรัฐฯ ที่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในมุมภาคอสังหาฯ และกลุ่มธุรกิจประกันในสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยถัดมา ได้แก่ การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 4/2024 ในสหรัฐฯ ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเริ่มมีการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทการเงินสหรัฐฯ ออกมา

โดยในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงรายละเอียดของปัจจัยสำคัญทั้ง 2 ว่าจะส่งกระทบต่อกลุ่มบริษัทการเงินสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง และกลุ่มบริษัทการเงินสหรัฐฯ ยังคงน่าลงทุนอยู่หรือไม่

เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทการเงินในสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง

สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่ 2 ที่ประชาชนใน LA ต้องเผชิญหน้ากับไฟป่าที่ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2025 ที่ป่า Palisades ซึ่งในช่วงแรกเหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะไม่รุนแรงมากนักและคาดว่าจะสามารถควบคุมได้ เนื่องจากไม่ใช่ฤดูไฟป่าซึ่งปกติมักเกิดขึ้นในช่วงราวเดือน พ.ค. – ต.ค. อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศที่แห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้เหตุไฟป่าในครั้งนี้ลุกลามขยายเป็นวงกว้างและส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง และยังเกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่ป่าอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย

โดยเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าใน LA ครั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ สูงถึงราว $250-275 billion หรือคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 1 จะเติบโตลดลง 0.2% YoY 

นอกจากผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แล้ว ยังคาดว่าเหตุการณ์นี้จะกระทบต่อ อุตสาหกรรมประกันภัยเช่นกัน จากการที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าสินไหมแก่ผู้ที่ทำประกันบ้าน/อาคารที่สูญเสียไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอุตสาหกรรมประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมสูงถึง $20-30 billion โดยบริษัทประกันชั้นนำหลายแห่ง อาทิ Allstate, Chubb, Travelers, American International Group, State Farm, Mercury General และ Cincinnati Financial จะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบสูงสุด

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าค่าสินไหมดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่อุตสาหกรรมประกันภัยสามารถจัดการได้ เนื่องจากในอดีตอุตสาหกรรมประกันภัยเคยจ่ายสินไหมชดเชยสูงกว่านี้มาก อย่างเหตการณ์พายุ Hurricane Katrina ในปี 2005 ที่มีการจ่ายค่าสินไหมชดเชยสูงถึง $60 billion โดยในปี 2024 อุตสาหกรรมประกันภัยในสหรัฐฯ ก็มีการจ่ายค่าสินไหมรวมกันถึง $140 billion

ทั้งนี้เลขคาดการณ์ความเสียหายต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมประกันที่กล่าวมาข้างต้น อาจเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากปัจจุบันเหตุการณ์ไฟป่าใน LA ยังไม่จบและยังมีโอกาสลุกลามต่อได้อยู่

งบกลุ่มธนาคารออกมาดีกว่าที่คาด หนุนราคาหุ้นกลุ่ม Financials ให้ปรับตัวขึ้น

โดยในช่วงที่ผ่านมาเหตุการณ์ไฟป่าใน LA ในกดดันให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง อย่างไรก็ดีผลการดำเนินงานของธนาคารขนาดใหญ่ที่ออกมาในสัปดาห์นี้ ช่วยทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ 5 แห่ง ที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาในสัปดาห์นี้ ทั้ง Bank of America, JPMorgan Chase, Goldman Sachs, Well Fargo  Citigroup ต่างรายงานกำไรเติบโตดีกว่าคาดทั้งหมด โดยความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานของธนาคารเหล่านี้ มีปัจจัยหนุนหลักจากการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยที่ช่วยเพิ่มรายได้จากการเทรดและการปล่อยกู้ รวมถึงการฟื้นตัวของค่าธรรมเนียมในธุรกิจวาณิชธนกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านผู้บริหารระดับสูงของธนาคารใหญ่ทั้ง 5 แห่งในสหรัฐฯ อาทิ Jamie Dimon, CEO ของ JPMorgan Chase และ David Solomon, CEO ของ Goldman Sachs ต่างได้ออกมาให้มุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการเงินสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของ Donald Trump ในปีนี้ โดยคาดหวังว่าการผ่อนคลายกฎระเบียบหรือกฎระเบียบใหม่ที่ Trump จะออกหลังขึ้นรับตำแหน่ง จะเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและปลดล็อคโอกาสในการขยายเครื่องมือทางการเงินใหม่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อกำไรของกลุ่มธนาคาร

ภายหลังการประกาศงบ หุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ (XLF ETF) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 3% ภายในระยะเวลา 2 วันตั้งแต่วันแรกที่เริ่มประกาศงบกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ (15 ม.ค. 2025)

โดยภาพรวม เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม US Finance จากปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และมุมมองเชิงบวกต่อนโยบายของ Trump ที่จะส่งผลดีต่อกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ดีประเด็นเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าใน LA คาดว่าจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อ sentiment โดยรวมของกลุ่มบริษัทประกันในสหรัฐฯ ไปอีกสักระยะ แต่เชื่อว่าผลกระทบจะอยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากดัชนี US Finance มีสัดส่วนการลงทุนในบริษัทประกันที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ในสัดส่วนที่ไม่ถึง 5% 

Source: Bloomberg, SSGA.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว

Scroll to Top
บริการออนไลน์
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนรวม

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก