/
/
/
/
ลดดอกเบี้ยแบบ Hawkish Cut ! สรุปผลการประชุม Fed ครั้งสุดท้ายของปี

ลดดอกเบี้ยแบบ Hawkish Cut ! สรุปผลการประชุม Fed ครั้งสุดท้ายของปี

การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2024 ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากทิศทางนโยบายการเงินของ Fed จะมีผลสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกและแนวทางการลงทุนในปี 2025 

โดยบทความนี้จะสรุปผลการประชุม Fed เดือนธันวาคม 2024, มุมมองของคณะกรรมการ Fed, มุมมองตลาด รวมถึงปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตามต่อจากนี้

ผลการประชุม Fed เดือนธันวาคม 2024

ผลการประชุม Fed ในครั้งนี้ คณะกรรมการ Fed ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.25%-4.5% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีนี้  

โดยผลโหวตในครั้งนี้คณะกรรมการ Fed มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 11:1 โดยมีเพียง Beth Hammack ประธานเจ้าหน้าที่ Fed สาขา Cleveland ที่คัดค้านและโหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงกว่าที่ Fed ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2% โดยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2024 อยู่ที่ 2.7%

อย่างไรก็ดีถึงแม้การปรับลดดอกเบี้ยของ Fed จะเป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่สิ่งที่สร้างความผันผวนให้กับตลาดเกิดคือ สัญญาณจาก Dot Plot ซึ่งคือมุมมองในอนาคตของ Fed ต่ออัตราดอกเบี้ย ที่บ่งชี้ว่า Fed เริ่มมีความระมัดระวังมากขึ้นในการดำเนินดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ Fed คาดว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยลดลงจากประมาณการเดิมไว้ในเดือนกันยายน 2024 ที่ 4 ครั้ง เหลือเพียง 2 ครั้ง

ซึ่งหากมองในแง่ดี เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเติบโตได้แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจาก Fed ได้มีการคาดการณ์โดยปรับเพิ่ม GDP ปี 2025 จากเดิมที่ 2.0% เป็น 2.1%  แต่ในขณะเดียวกันการปรับลดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยอาจได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2025 โดยปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.1% เป็น 2.5% อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ อาทิ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองสหรัฐฯ ต่อจากนี้ จึงส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่า Fed อาจจะชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วกว่าที่คาด

การให้ความเห็นของประธาน Fed

Jerome Powell (ประธาน Fed) ได้ปรับคำพูดในการสื่อสารช่วงแถลงข่าวอีกครั้งโดยเน้นย้ำถึงตัวเลขเงินเฟ้อมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ตอนที่ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงแรก Powell ได้ระบุว่า Fed ให้ความสำคัญกับตลาดแรงงานมากกว่าตัวเลขเงินเฟ้อ

โดย Jerome Powell ระบุว่า Fed จะพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในกรณีที่เห็นความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อได้เท่านั้น อีกทั้งยังคาดการณ์ว่า Fed อาจจะยังต้องใช้เวลานานขึ้นในการทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับเป้าหมายที่ 2% ซึ่งไม่สามารถทำได้มาเกือบ 4 ปีแล้ว

ซึ่งความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจเป็นผลมาจากนโยบายเศรษฐกิจของ Donald Trump (ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มข้น โดยนโยบายดังกล่าว อาจรวมถึง 1.) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยการเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐและการลดภาษี 2.) นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้า ที่อาจทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าสูงขึ้นและส่งผลให้ราคาสินค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 3.) นโยบายแรงงานโดยการจำกัดการเข้าเมืองซึ่งอาจกดดันต่อค่าแรงที่สูงขึ้น และส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาสินค้า

โดยนโยบายของ Donald Trump นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ

มุมมองตลาด

ภายหลังจากที่ตลาดรับรู้ถึงผลการประชุม Fed รอบล่าสุด รวมถึงแนวคิดของ Fed สำหรับมุมมองการดำเนินนโยบายการเงินและการคาดการณ์ตัวเงินเฟ้อสำหรับปี 2025  ส่งผลให้ตลาดการเงินเคลื่อนไหวผันผวน โดย Bond Yield สหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 4.5% และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ได้ปรับตัวลดลง ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

นอกจากนี้ ตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 อย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลล่าสุดจาก CME FedWatchTool คาดว่า Fed ปรับลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในปี 2025

 ปัจจัยที่ต้องติดตาม

ปัจจัยที่นักลงทุนควรต้องติดตามในปี 2025 คือ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกถึงทิศทางในการดำเนินดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ต่อจากนี้ ซึ่งจริงๆแล้วหากย้อนกลับไปในอดีต เราจะเห็นได้ว่า Fed ก็มีการเตรียมพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยได้ตลอดเวลาตามสภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ

นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ Donald Trump ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายดอกเบี้ย Fed เช่นกัน

แม้ว่า Fed จะส่งสัญญาณ Hawkish Cut ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2024 ซึ่งสร้างความกังวลว่าการลดดอกเบี้ยในปี 2025 อาจเกิดจะขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ดี วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในครั้งนี้น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว  และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงในปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนความเร็วในการปรับลดดอกเบี้ยหลังจากนี้จะมากน้อยแค่ไหนก็จะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมานั่นเอง

Source : Bloomberg, Federal Reserve

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว

Scroll to Top
บริการออนไลน์
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนรวม

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก