เด้งที่ 1 สร้างวินัยในการออม

ขอขิงหน่อยว่าไม่มีการออมไหนที่จะคุ้มค่าเท่ากับการออมผ่าน PVD อีกแล้ว เพราะนอกจากเงินที่เราออมเอง เรายังได้เงินออมเพิ่มจากนายจ้างทุกเดือนอีกด้วยนะ ซึ่งการออมผ่าน PVD ถือเป็นการสร้างวินัยให้ตัวเอง เป็นการออมก่อนใช้ โดยสมาชิก PVD จะต้องสะสมเงินและนายจ้างสมทบเงินเข้า PVD ทันทีทุกครั้งที่เงินเดือนออก ซึ่งตัวสมาชิกเองสามารถออมได้สูงสุดถึง 15% ของค่าจ้าง ดังนั้น แนะนำให้สมาชิก PVD ออมให้เต็ม Max 15% ยิ่งเราออมมากเท่าไหร่ เราก็จะมีเงินเก็บมากขึ้นเร็วเท่านั้น งานนี้ “เงินเก็บหลักล้าน” อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

เด้งที่ 2 ประหยัดภาษีจากเงินสะสมในแต่ละปี

เงินสะสมที่เราจ่ายเข้ากองทุนทุกเดือน สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้ตามจริงสูงสุดถึง 500,000 บาทต่อปีเลยนะ ทั้งนี้ ค่าลดหย่อนของเงินสะสม PVD เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญและกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ซึ่งได้แก่ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในแต่ละปีภาษี

เด้งที่ 3 ยกเว้นภาษีสำหรับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นใน PVD

เงินกองทุน PVD จะถูกนำไปลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด หรือนโยบายการลงทุนที่สมาชิกเลือก นั่นแสดงว่าเงิน PVD ไม่ได้อยู่นิ่งๆ แต่จะงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ ตามคอนเซ็ปต์การลงทุนแบบทบต้นทบดอกนั่นเอง  และด้วยการที่ PVD  เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างเงินก้อนโตไว้ใช้ยามเกษียณโดยที่ไม่มีการถอนเงินลงทุนออกมา ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่ได้ในแต่ละปีก็จะทบเป็นเงินต้นในปีต่อๆ ไป ทำให้ในปีถัดไปยิ่งได้ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนสูงขึ้นไปอีก ที่สำคัญ ผลประโยชน์ที่เกิดจากการลงทุนใน PVD ทุกประเภท เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล กำไรจากขายหลักทรัพย์ ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเลยทั้งจำนวนเลยนะ

เด้งที่ 4 ยกเว้นภาษีเงินก้อน PVD เมื่อครบเงื่อนไข 55+5

เมื่อออกจากงานโดยที่ครบเงื่อนไข อายุตัวครบ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่องกัน หรือ ทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต เงินก้อน PVD ไม่ต้องเสียภาษี เรียกได้ว่า ได้รับเงิน PVD ไปเต็มๆ ไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว

พอเห็นประโยชน์หลายเด้งของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) แล้ว ก็ขอให้เพื่อนๆ ชาว PVD มีวินัยและอดทนกับการออมผ่าน PVD แบบเต็ม Max 15% จนถึงวันเกษียณ แล้วก็อย่าลืมแบ่งเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงบ้าง เช่น หุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้ ต้องขึ้นกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละคนด้วยนะครับ แล้วเพื่อนๆ ก็จะมีเงินออมก้อนโต๊โตแล้วก็จะได้มีความสุขทุกวันยันเกษียณเลยล่ะครับ