กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ประหยัดภาษีได้แน่นะวิ
PVD ประหยัดภาษีได้แน่นะวิ
นอกจากนี้ ความว้าวอีกเรื่องที่ต้องป่าวประกาศ ก็คือ การช่วยประหยัดภาษีนั่นเอง ซึ่ง PVD เป็นตัวช่วยให้สามารถลดหย่อนและยกเว้นภาษีถึง 3 ต่อด้วยกัน คือ
ต่อที่ 1
เงินสะสมที่เรานำส่งเข้ากองทุนทุกเดือน สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้ตามจริงไม่เกิน 15% ของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อปีเลยนะ
ทั้งนี้ วงเงิน 500,000 บาท นับรวมเงินที่ซื้อกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ได้แก่ เงินที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เบี้ยประกันแบบบำนาญ เงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
ต่อที่ 2
ผลประโยชน์ที่เกิดจากการลงทุนใน PVD ทุกประเภท เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล กำไรจากขายหลักทรัพย์ ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเลยทั้งจำนวน
ต่อที่ 3
เมื่อออกจากงานโดยที่ครบเงื่อนไข อายุตัวครบ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่องกัน (ครบเงื่อนไข 55 + 5) หรือ ทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต เงิน PVD ได้รับยกเว้นภาษี เรียกได้ว่า ได้รับเงิน PVD ไปเต็มๆ ไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิก PVD ที่ออกจากงานแล้ว แต่อายุตัวยังไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ และ/หรือ จำนวนปีเป็นสมาชิกน้อยกว่า 5 ปี แต่อยากได้รับการสิทธิยกเว้นภาษี แนะนำให้คงเงินไว้ในกองทุนจนอายุตัวและจำนวนปีที่เป็นสมาชิกครบเงื่อนไข 55 + 5 ข้างต้น เพื่อที่จะได้รับการยกเว้นภาษีเช่นเดียวกัน
“เห็นมั้ยครับว่า นอกจาก PVD จะทำให้เพื่อนๆ ได้วางแผนการเงินเพื่อการเกษียณแล้ว ยังเป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการประหยัดภาษีอีกด้วย
ดังนั้น มาออมเต็ม Max 15% ใน PVD กันดีกว่า เพื่อนๆ จะได้มั่งคั่งและมีเงินก้อนโตไว้ใช้หลังเกษียณ แล้วก็จะมีความสุขทุกวันยันเกษียณเลยครับ”
แล้วเพื่อนก็จะได้มีเงินเก็บก้อนโต แล้วก็จะได้มีความสุขทุกวันยันเกษียณเลยครับ
