กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจของนายจ้างและลูกจ้าง โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการออมเพื่อเป็นทุนทรัพย์ให้แก่ลูกจ้าง ในกรณีเกษียณอายุ ทุพพลภาพหรือออกจากงาน และเพื่อเป็นหลักประกันให้แก่ครอบครัวของลูกจ้าง ในกรณีที่ลูกจ้างเสียชีวิต
โดยเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้ถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายเท่ากับจำนวนเงินที่บริษัทได้จ่ายสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 183 (พ.ศ. 2533)
ซึ่งนายจ้างมีหน้าที่นำส่งเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน เพื่อให้บริษัทจัดการนำเงินไปลงทุนให้งอกเงย ตามวัตถุประสงค์ของการออมเงินเพื่อไว้ใช้หลังเกษียณ สมาชิกกองทุนจะมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนเมื่อสิ้นสุดความเป็นสมาชิกภาพ ลาออกจากงาน หรือเสียชีวิต
กองทุนเดี่ยว/กองทุนกลุ่ม (Single Fund/Group Fund)
กองทุนเดี่ยว คือกองทุนที่มีบริษัทนายจ้างเพียง 1 ราย หรือเป็นกลุ่มบริษัทในเครือของนายจ้าง เหมาะสำหรับบริษัทที่มีขนาดของกองทุนตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อให้มีเงินเพียงพอในการกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์หรือตราสารทางการเงินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน กองทุนมีสภาพคล่องและมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะยาว
กองทุนร่วมทุนหรือกองทุนหลายนายจ้าง (Pooled Fund)
กองทุนร่วมทุนหรือกองทุนหลายนายจ้าง คือ กองทุนที่ประกอบด้วยบริษัทที่มีขนาดต่างๆ ไม่ว่าขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ เข้ามาอยู่รวมกันในกองทุนเดียว โดยสามารถกำหนดข้อบังคับกองทุนของแต่ละบริษัทให้แตกต่างกันได้ วัตถุประสงค์สำคัญของกองทุนประเภทนี้ ได้แก่ การเพิ่มมูลค่าเงินกองทุนในระยะยาวให้แก่สมาชิกกองทุน ด้วยการรวมเงินกองทุนของนายจ้างของบริษัทต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขนาดกองทุนซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถในการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เพิ่มอำนาจในการต่อรอง ประหยัดค่าใช้จ่ายของกองทุน เพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งในที่สุดช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น
ทำหน้าที่ควบคุมดูแลบุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจัดการ ผู้รับฝากทรัพย์สิน และผู้สอบบัญชี เป็นต้น และอีกบทบาทหน้าที่หนึ่ง คือ ทำหน้าที่ในฐานะ "นายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" ในการรับจดทะเบียนจัดตั้งกองทุน การแก้ไขข้อบังคับกองทุน รวมทั้งควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนด้วย
คณะกรรมการกองทุนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นตัวแทนของนายจ้างและลูกจ้างที่ช่วยดูแลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิก โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการประสานงานเพื่อจัดตั้งกองทุน คัดเลือกบริษัทจัดการ การกำหนดนโยบายการลงทุนที่สอดคล้องกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของสมาชิก หรือแก้ไขข้อบังคับกองทุน เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก เนื่องจากอำนาจและหน้าที่บางอย่าง เช่น การแก้ไขข้อบังคับกองทุน จะมีผลผูกพันกับสมาชิกให้ต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น คณะกรรมการกองทุนควรจะเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเสียสละในการดูแล และปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากนายจ้างและลูกจ้าง ทั้งนี้ คณะกรรมการกองทุนประกอบด้วย
- กรรมการกองทุนฝ่ายนายจ้าง เป็นกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งของนายจ้าง
- กรรมการกองทุนฝ่ายลูกจ้าง เป็นกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งของลูกจ้าง
ทำหน้าที่ดูแลและเก็บรักษาทรัพย์สินของกองทุน ติดตามสิทธิประโยชน์ในเรื่องเงินปันผล และสิทธิต่าง ๆ ที่ได้จากการถือหุ้นในบริษัทที่กองทุนลงทุน โดยผู้รับฝากทรัพย์สินต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการเงินของกองทุน โดยนำไปลงทุนให้ออกดอกออกผลเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิกกองทุน ดังนั้น คณะกรรมการกองทุนต้องร่วมกันเลือกบริษัทจัดการที่เหมาะสมเข้ามาบริหารจัดการกองทุน โดยบริษัทจัดการจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลด้วย
ทำหน้าที่ตรวจสอบรายงานทางการเงิน รับรองความถูกต้องของข้อมูลตามรายงานทางการเงินของกองทุน ก่อนที่จะทำการเลือกผู้สอบบัญชีของกองทุน จะต้องทราบว่าสมาชิกในกองทุนมีจำนวนเท่าใด
- หากกองทุนมีจำนวนสมาชิกไม่เกิน 100 ราย: ให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไปตรวจสอบและแสดงความเห็นในงบการเงินของกองทุนได้
- หากกองทุนมีสมาชิกเกิน 100 ราย: ต้องให้ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจสอบและแสดงความเห็นในงบการเงินของกองทุน
ทำหน้าที่รับเงินจากนายจ้างเข้ากองทุน จ่ายเงินจากกองทุนให้สมาชิกที่ลาออก จัดทำบัญชีรายชื่อสมาชิก จำนวนเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของสมาชิกแต่ละราย และจัดส่งรายงานรายตัวสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้สมาชิกทราบทุกงวด 6 เดือนของปีปฏิทิน โดยรายงานจะต้องแสดงจำนวนหน่วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มูลค่าต่อหน่วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มูลค่าของเงินสะสมของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบของนายจ้าง พร้อมทั้งผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบ โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทจัดการมักจะทำหน้าที่นี้เอง แต่ก็อาจมอบหมายให้บริษัทอื่นที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ทำหน้าที่แทนก็ได้ โดยที่ผู้ปฏิบัติการกองทุนทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก ดังนั้น จึงมักเรียกกันโดยทั่วไปว่า "นายทะเบียนสมาชิก"
เป็นผู้ที่มีความสำคัญในการริเริ่มให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อเป็นสวัสดิการที่ดีให้แก่ลูกจ้าง และเป็นหลักประกันให้ลูกจ้างมีเงินก้อนไว้ใช้เมื่อเกษียณอายุ ออกจากงาน หรือ ออกจากกองทุน ทั้งนี้ นายจ้างจะมีหน้าที่หลักในการนำส่งเงินสะสมและสมทบเข้ากองทุน
พนักงานหรือลูกจ้างที่ทำงานให้แก่นายจ้าง ซึ่งเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และยินยอมให้นายจ้างหักเงินจากค้าจ้างเพื่อเป็นเงินสะสมนำส่งเข้ากองทุน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
02 633 6161 หรืออีเมล์ tasset_pvd@tisco.co.th