ประกันตามวัย แบบไหนใช่เลย
ประกันตามวัย แบบไหนใช่เลย

“การวางแผนประกันภัย” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล เป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันและส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของเรา ซึ่งแม้ว่าจะขจัดความเสี่ยงได้ไม่ทั้งหมด เราก็ยังอุ่นใจว่าจะได้เงินจากบริษัทประกันมาช่วยบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ นั่นเอง แล้วแต่ละช่วงวัย ควรทำประกันแบบไหน ไปดูกันเลย...


ประกันวัยซ่าส์ 20+

ด้วยความที่คนวัยซ่าส์อายุยังน้อย จึงมีโอกาสที่จะทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตโลดโผนกว่าวัยอื่นๆ  ดังนั้น คนวัยนี้ควรทำประกันอุบัติเหตุที่จ่ายเบี้ยน้อยแต่คุ้มครองสูง สามารถแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ บางแผนมีชดเชยรายได้ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลและคุ้มครองกรณีทุพพลภาพอีกด้วย

ประกันสุขภาพก็เป็นอีกแบบที่แนะนำเพื่อคุ้มครองกรณีป่วยหนักต้องเข้ารักษาตัวหรือผ่าตัดในโรงพยาบาล ซึ่งเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับวัยซ่าส์นับว่ายังไม่แพง ยิ่งถ้าเราเลือกประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรกสูงซักหน่อย ค่าเบี้ยต่อปีจะถูกลงไปเยอะมาก

นอกจากนี้ ควรเพิ่มประกันแบบสะสมทรัพย์เพื่อสะสมเป็นเงินออมตามกำลังของเรา โดยสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

ประกันวัยแซ่บ 30+

ถึงแม้คนวัยแซ่บเองไม่ค่อยเสี่ยงที่จะป่วยหนัก แต่ก็แนะนำให้ทำประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล ยิ่งถ้าใครที่มีลูกเล็กๆ จำเป็นมากที่ต้องเพิ่มประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เพราะเด็กเล็กๆ ป่วยบ่อยมาก เวลาเข้าโรงพยาบาล ต้องจ่ายทีเป็นหมื่นเป็นแสน 

สำหรับใครที่เป็นเสาหลักของครอบครัว แนะนำให้ทำ “ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา” ที่จ่ายเบี้ยต่อปีน้อยแต่คุ้มครองชีวิตสูงกว่าการทำประกันชีวิตประเภทอื่นๆ เรียกว่า “จ่ายเบี้ยหลักพัน คุ้มครองหลักล้าน” โดยบริษัทประกันจะจ่ายชดเชยให้ครอบครัวเฉพาะกรณีที่เราเสียชีวิตภายในระยะเวลาคุ้มครองตามกรมธรรม์เท่านั้น เช่น จ่ายเบี้ย 10 ปี คุ้มครอง 10 ปี โดยทุนประกันที่ทำควรจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคนที่เราดูแลรวมถึงภาระหนี้สินที่มีอยู่ เช่น ค่าเทอมลูกจนเรียบจบปริญญาตรี ค่าใช้จ่ายของครอบครัวสำหรับอีก 10 ปีข้างหน้า เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรทำประกันสะสมทรัพย์เพื่อลดภาระทางภาษีและสามารถสะสมเป็นเงินออมให้เราได้อีกด้วย

ประกันวัยเผ็ด 40+

หลายคนในวัยเผ็ดเริ่มเป็นโรคนู้นโรคนี้ ซึ่งประกันที่จำเป็น ก็คือ ประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมาก เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

คนวัยนี้ส่วนใหญ่เป็นเสาหลักของครอบครัว จึงควรทำประกันแบบชั่วระยะเวลาที่จ่ายเบี้ยต่อปีน้อยแต่ให้ความคุ้มครองสูงกว่าประกันชีวิตประเภทอื่นเพื่อเป็นหลักประกันคุ้มครองครอบครัวในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่เราต้องจากครอบครัวไปอย่างกระทันหันนั่นเอง

นอกจากนี้ ฐานเงินเดือนของเราสูงขึ้น แนะนำให้ซื้อประกันสะสมทรัพย์เพื่อเป็นเงินออมและช่วยลดภาระทางภาษี

ประกันวัยเด็ด 50+

ในช่วงวัยเด็ดนี้ การทำประกันสุขภาพถือเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ที่จะช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้ ควรเพิ่มความคุ้มครองในส่วนของโรคร้ายแรงต่างๆ ไว้ด้วย

ถัดมาที่แนะนำ คือ แบบประกันสะสมทรัพย์ เพราะนอกจากจะสะสมเป็นเงินออมแล้ว ยังสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ควรทำประกันบำนาญ เพราะเป็นตัวเสริมที่ทำให้เรามีเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้หลังเกษียณอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผลประโยชน์จะมากยิ่งขึ้นในกรณีเรามีอายุยืนยาวหรือมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่หากเราต้องจากไป ก็สามารถส่งต่อเงินก้อนเป็นมรดกให้กับลูกหลานต่อไป

ประกันวัยเก๋า 60+

คนวัยเก๋ามักเจอปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ควรทำประกันสุขภาพและเพิ่มเติมความคุ้มครองโรคร้ายแรงอย่างต่อเนื่องเพื่อคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยและช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาล

นอกจากนี้ ในวัยนี้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยขึ้น แนะนำให้ทำประกันอุบัติเหตุซึ่งจ่ายเบี้ยน้อย แต่ได้รับความคุ้มครองสูง ในกรณีที่เสียชีวิตยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานได้ด้วย

จะเห็นได้ว่าการทำประกันสุขภาพถือเป็นประกันที่จำเป็นสำหรับทุกช่วงวัย ซึ่งก่อนทำประกันควรตรวจสอบเงื่อนไขสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของที่ทำงานเพื่อวางแผนซื้อประกันสุขภาพให้เหมาะสม โดยประกันสุขภาพควรทำตั้งแต่อายุยังน้อยและมีสุขภาพดี เพื่อเวลาเจ็บป่วยจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินหรือนำเงินเก็บเพื่อการเกษียณมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล และถ้ารอจนเจ็บป่วยไปก่อน บริษัทประกันก็จะไม่รับทำประกันโรคนั้นๆ นอกจากนี้ ก็อย่าลืมทบทวนวงเงินประกันสุขภาพให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

นอกจากประกันที่กล่าวมาข้างต้น ใครที่มีบ้านหรือรถยนต์ ควรทำประกันอัคคีภัยบ้านและประกันรถยนต์ เนื่องจากจะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินทั้งบ้านและรถยนต์  นอกจากนี้ ในส่วนของประกันรถยนต์ยังคุ้มครองค่าเสียหายสำหรับการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้โดยสารและบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอกอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อประกัน ต้องตรวจสอบว่าเรามีกำลังในการจ่ายเบี้ยได้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่

รวมถึงให้เช็คความต้องการใช้เงินและสภาพคล่องทางการเงินด้วย นอกจากนี้ ต้องดูเงื่อนไขของกรมธรรม์ด้วย ว่ามีข้อยกเว้นความคุ้มครองหรือมีเหตุอะไรบ้างที่จะทำให้บริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าสินไหมหรือค่ารักษาพยาบาลให้เราหรือเปล่า ที่สำคัญมากๆ คือ ให้เลือกทำประกันกับบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือและมั่นคง

หากเราวางแผนทำประกันได้อย่างเหมาะสม เราก็จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะต้องเสียเงินก้อนโตจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันทั้งหลาย ทีนี้ เราก็จะมั่นคงมั่งคั่ง มีอิสระทางการเงิน แล้วก็จะมีความสุขทุกวันยันเกษียณเลยล่ะครับ

เพื่อนๆ สามารถติดตามสาระดีๆ และข้อมูลข่าวสารด้านการวางแผนการเงินและการลงทุน การวางแผนเกษียณ ได้ที่ TISCO Smart Retirement 

#TISCOsmartretirement #สุขทุกวันยันเกษียณ #Smartretirement  #FreedombyTISCOPVD #กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ #กองทุนเลี้ยงชีพ #PVD

 Line Official : @TISCOASSET

 Youtube Channel : TISCO Fun(d) Station

 Facebook Fanpage : TISCO Asset Management