ในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเผชิญกับปัจจัยกดดันหลายปัจจัย ส่งผลให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ สะท้อนจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญโดยภาพรวมส่วนใหญ่ยังคงออกมาต่ำกว่าที่คาด และทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้นจีนลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ทางการจีนพยายามออกมาตรการและนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และพยายามฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมาเช่นกัน ซึ่งล่าสุดความพยายามของทางการจีนเริ่มแสดงผลลัพธ์ให้เห็นแล้ว

ตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

     การรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนล่าสุดในเดือน มี.ค. ส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) รายงานอยู่ที่ 50.8 จุด จากระดับ 49.9 จุด ในเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าระดับ 50 จุด ถือเป็นการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน อีกทั้งดัชนี Caixin PMI อยู่ที่ 51.1 จุด สูงสุดตั้งแต่เดือนก.พ. ปีที่แล้ว สะท้อนการฟื้นตัวของทั้งอุปสงค์และอุปทานภายในประเทศ รวมถึงการบริโภคและการลงทุน

     ด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อที่ไม่ใช่การผลิต (non-manufacturing PMI) ซึ่งรวมภาคบริการและการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 53 จุด สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับตัวเลขของดัชนี Caixin อยู่ที่ระดับ 52.7 จุด ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาดเช่นกัน

     ในขณะเดียวกันการส่งออกก็เริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลข New Export Orders ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากปรับลงมาตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 51.3 จุด ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 13 เดือน

     โดยนอกจากจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนแล้ว นักลงทุนต่างชาติที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะมีบางส่วนที่ต่างพากันหนีออกจากการลงทุนในหุ้นจีน ก็เริ่มเห็นสัญญาณการเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นจีนบ้างแล้ว รวมถึงสุดยอดนักลงทุนระดับโลกอย่าง Ray Dalio ยังออกมาให้ความเห็นเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นจีนด้วยเช่นเดียวกัน

     จากรูปภาพข้างต้นจะเห็นได้ว่ากองทุนรวมทั่วโลกเริ่มมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนเพิ่มขึ้นมาบ้างเล็กน้อยอยู่ที่ 5.3% ในเดือนก.พ. หลังจากในเดือนม.ค. กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์

ยังคงมีนักลงทุนที่มองว่าจีนยังคงน่าลงทุน

     Ray Dalio นักลงทุนชื่อดังระดับโลก ผู้ก่อตั้งกองทุน Hedge Fund “Bridgewater Associates” และผู้เขียนหนังสือ “Principles” ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นจีน โดยกล่าวว่าปัญหาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ก่อภาระหนี้สินจำนวนมาก รวมทั้งปัญหาด้านความขัดแย้งกับสหรัฐฯ จะทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลและถือเป็นความท้าทายที่เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญ แต่โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนสามารถบริหารจัดการได้

     โดยในช่วงที่ผ่านมา Ray Dalio ระบุว่าตนเองนั้นยังสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นและขาลง อีกทั้งยังเชื่อว่าเวลาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อคือ ช่วงเวลาที่ทุกคนรู้สึกกลัวการลงทุนในหุ้น ในขณะที่ Valuation ของตลาดหุ้นถูกมาก นอกจากนี้ยังเริ่มเห็นสัญญาณว่าทางการจีนจะเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative easing)  และการปรับโครงสร้างหนี้สิน (Debt restructuring)

     ซึ่ง Ray Dalio ถือเป็นนักลงทุนระดับโลกเพียงไม่กี่คนในช่วงหลัง ที่ออกมาให้ความเห็นในเชิงบวกกับหุ้นจีน

     ส่วนช่วงเวลาต่อจากนี้หุ้นจีนจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ตามความเห็นของ Ray Dalio หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับว่าหลังจากนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนจะเริ่มมีผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวขึ้นได้ดี ตามสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวหรือไม่ นอกจากนี้ความเสี่ยงของหุ้นจีนที่ยังคงอยู่คือประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้ช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ การหาเสียงด้วยการโจมตีจีนอาจเป็นมาตรการที่ผู้ลงสมัครเลือกตั้งจากทั้ง 2 พรรคนำมาใช้

     อย่างไรก็ดีเมื่อดูจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันในช่วงนี้ ถือว่ามีโอกาสสูงที่หุ้นจีนจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าการฟื้นตัวหลังจากนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และจะเป็นการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพได้ในระยะยาวหรือไม่

Source : The Wall Street Journal, CNBC, Goldman Sach, TISCO ESU