สำรวจงบ 3 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน อนาคตยังมีหวัง ?

     ในช่วงที่ผ่านมา มีหลากหลายประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนที่นักลงทุนต่างเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการรายงานตัวเลขการฟื้นตัวของการบริโภคในช่วงตรุษจีน การประชุมสองสภาของจีนที่มีการกล่าวถึงแผนการดำเนินการและเป้าหมายของเศรษฐกิจในปีนี้ รวมถึงการออกมาตรการทางการเงินการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงประมาณ 1 เดือนหลังจากนี้จะมีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจ นั่นคือ การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการรายงานผลการดำเนินงานของเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนดังนี้

Xiaomi ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด รายได้เติบโต 11%

     Xiaomi บริษัทผู้ผลิต Smartphone และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ รายงานรายได้อยู่ที่ ¥73.24 billion เติบโตถึง 11% YoY และมีกำไรอยู่ที่ ¥4.9 billion ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายมือถือ Smartphone ที่ฟื้นตัวขึ้นได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023

     บริษัทมีรายได้หลักจากการขาย Smartphone ในช่วงไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ ¥44.2 billion โดยยอดขายมือถือ Smartphone ของ Xiaomi เพิ่มขึ้น 23.9% YoY อยู่ที่ 40.5 ล้านเครื่อง ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากยอดขายมือถือรุ่น Mi 14 ที่สามารถทำยอดขายทะลุ 1 ล้านเครื่องได้ในช่วงสัปดาห์แรกที่วางขาย หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่ง Xiaomi มีสัดส่วน Smartphone Global Market Share เป็นลำดับที่ 3 อยู่ที่ 13%

     นอกจากนี้ยอดขายอุปกรณ์ Internet of thing (IoT) ของบริษัทหลายรายการก็มียอดขายสูงขึ้นเป็นลำดับต้นๆ เช่นกัน อาทิ Smart TV ที่มียอดขายเป็นลำดับที่ 5 ของโลกในปี 2023 และปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่รายได้ของ Smart Large Home Appliances เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่น Tablets บริษัทมียอดขายสูงเป็นลำดับที่ 5 ของโลกในไตรมาส 3 ปี 2023 และมียอดขาย Wearable Bands สูงเป็นลำดับที่ 2 ของโลกในปี 2023

     อีกทั้งหลังจากนี้ Xiaomi กำลังขยายธุรกิจเพิ่มเติมไปยังอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มนำส่งรถยนต์ให้กับลูกค้าได้ภายในเดือนนี้ และคาดว่า Xiaomi จะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ปีละราว 200,000 คัน โดยยังมีแผนลงทุนในธุรกิจดังกล่าวอีก $10 billion ในระยะ 10 ปีข้างหน้า

Tencent ผลการดำเนินงานออกมาต่ำกว่า คาดพร้อมประกาศซื้อหุ้นคืนเพิ่ม 2 เท่า

     Tencent บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าคาด โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 7% YoY อยู่ที่ ¥155.2 billion และกำไรต่อหุ้น (Diluted) เพิ่มขึ้น 46% YoY อยู่ที่ ¥4.44 

     โดยรายได้ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ส่วนธุรกิจโฆษณาออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น 21% หลังความต้องการของโฆษณาออนไลน์ที่เสริมด้วยนวัตกรรม AI ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ รายได้ธุรกิจ Fintech และธุรกิจบริการอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้น 15% หลังบริษัทมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ มากขึ้น

     ทั้งนี้ รายได้ธุรกิจเกมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทกลับปรับตัวลง 3% โดยถูกกดดันจากรายได้ส่วน Live Steaming และยอดเติมเงินเกมในประเทศที่ลดลง สะท้อนเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาฟื้นตัวเปราะบาง ขณะเดียวกันทางบริษัทได้ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนอย่างน้อย 2 เท่าจากปีก่อนที่ $12.8 billion – สะท้อนผู้บริหารยังมีมุมมองที่ดีต่อพื้นฐานบริษัท และ ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป

     นักวิเคราะห์มองว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้น่าจะดีขึ้น จากการที่บริษัทได้เข้าซื้อสินทรัพย์ธุรกิจเกมของ Bytedance เพื่อนำมาเสริมในส่วนธุรกิจเกม และการลงทุนพัฒนา AI (Hunyuan) เพื่อนำมาเสริมในส่วนของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัท โดยเฉพาะในส่วนวิดีโอสั้นและโฆษณาที่เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยปรับปรุง

Pinduoduo ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด จากกลยุทธ์การตลาดและขยายธุรกิจต่างประเทศ

     Pinduoduo บริษัท E-commerce เจ้าใหญ่ของจีน รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดออกมาดีกว่าคาด โดยรายได้อยู่ที่ ¥88.88 billion เติบโตถึง 123% YoY และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ ¥22.39 billion เติบโตถึง 146% YoY โดยบริษัทมีรายได้จากธุรกิจ Online Marketing Services อยู่ที่ ¥48.67 billion เติบโต 57% YoY และมีรายได้จากธุรกิจ Transaction Services อยู่ที่ ¥ 40.2 billion เติบโตมากถึง 357% YoY

     ซึ่งผลการดำเนินงานที่ออกมาดีของ Pinduoduo ผู้บริหารของบริษัทออกมาให้ความเห็นว่าเป็นเพราะในช่วงที่ 4 เริ่มเห็นแรงซื้อของผู้บริโภคที่มากขึ้น จากความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมา โดยที่ผ่านมา Pinduoduo พยายามขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดย App Temu ประสบความสำเร็จอย่างสูงในหลายประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา – นอกจากนี้เรามองว่าผลดำเนินงานที่ดีมาจากการแย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก Alibaba, JD.com จากการใช้กลยุทธ์ทางการตลาด อาทิ การปรับลดราคา รวมถึงใช้ช่องทาง social ที่หลากหลาย และ การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศผ่าน App Temu

     โดยภาพรวมผลการดำเนินงานที่ออกมาจะยังไม่ได้สร้างความประทับใจมากนักแก่นักลงทุน แต่เรามองว่ารายได้บริษัทมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ด้วยปัจจัยหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศในระยะข้างหน้า รวมถึงปัจจัยหนุนเฉพาะตัวของแต่ละบริษัท อาทิ Xiaomi ที่มีการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้า, Tencent ประกาศแผนซื้อหุ้นคืน รวมทั้งมีการหาสิ่งใหม่มาเสริมธุรกิจเดิมของตน อาทิ AI และการเข้าซื้อหน่วยธุรกิจเกมจาก Bytedance เช่นเดียวกับ Pinduoduo มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ เป็นต้น

ที่มา: Website Company, CNBC, Yahoo Finance

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TISCO Contact Center 0 2633 6000 กด 4 , 0 2080 6000 กด 4
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือโดยทางอื่นใด ทิสโก้ไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่ผู้เดียว