คุณพ่อคุณแม่ควรประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับเทอมถัดไปล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน โดยหลังจากได้รับเงินเดือน ให้คุณพ่อคุณแม่เก็บออมเงินเพื่อการเกษียณของตนเองอย่างน้อย 10% ของเงินเดือน จากนั้น...ก็ให้เก็บออมเงินค่าเทอมลูกต่อทันทีเพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสำคัญ โดยให้คำนวณค่าใช้จ่ายของเทอมถัดไปทั้งหมดหารด้วย 6 แล้วเก็บออมเดือนละ 1 ส่วน เช่น ค่าใช้จ่ายของเทอมถัดไปเท่ากับ 30,000 บาท ก็ให้เก็บออมเดือนละ 5,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือจากการออมเพื่อการเกษียณและค่าเทอมลูก ก็ค่อยนำไปวางแผนการใช้จ่ายในส่วนอื่นต่อไปได้
นอกจากนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สามารถออมเงินให้ลูกได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในเทอมถัดไป ก็ให้ออมเพิ่มทันทีและให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเมื่อลูกโตขึ้นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
2. เปิดบัญชีเฉพาะสำหรับค่าเล่าเรียน
คุณพ่อคุณแม่ควรจะเปิดบัญชีเงินออมเพื่อการศึกษาของลูกแยกไว้ต่างๆ หากจากบัญชีธนาคารอื่นๆ และไม่ให้นำเงินในบัญชีไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งนอกจากจะได้ดอกเบี้ยจากการฝากเงินแล้ว เมื่อถึงเวลาจ่ายค่าเทอมก็จะไม่มีปัญหาเงินขาดมืออีกด้วย
ในกรณีที่สามารถเพิ่มเงินออมเพื่อการศึกษาในระยะยาวได้ คุณพ่อคุณแม่ควรจะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในทรัพย์สินที่เสี่ยงขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการฝากเงิน เช่น ลงทุนในกองทุนรวมที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นส่วนหนึ่ง (ขึ้นกับระยะเวลาลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้จากการลงทุน) ซึงจะทำให้เงินเก็บถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทำได้ตามนี้ ก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีเงินพอมั้ยในช่วงเปิดเทอม แถมยังไม่ต้องจำนำทรัพย์สินของเราอีกด้วย ทีนี้ เราก็จะยิ้มได้และมีความสุขทุกวันไปด้วยกันยันเกษียณ
เพื่อนๆ สามารถติดตามสาระดีๆ และข้อมูลข่าวสารด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนได้ที่ TISCO Smart Retirement Facebook : TISCO Line@ : @tiscoasset
#TISCOsmartretirement #สุขทุกวันยันเกษียณ #Smartretirement #Smartspending