ความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ซึ่งเบี้ยประกันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่เดินทาง อายุ ความคุ้มครองที่ต้องการ ค่าเบี้ยประกันประเภทนี้นับว่าไม่แพงเลยแต่ให้ความคุ้มครองสูงมาก เรียกได้ว่า “จ่ายแค่หลักร้อย คุ้มครองหลักล้าน” มาดูกันว่าการทำประกันการเดินทางสามารถคุ้มครองความเสี่ยงหลักๆ อะไรให้กับเราได้บ้าง
คุ้มครองกรณีที่เจ็บป่วย แล้วต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่เมืองนอก ซึ่งปัจจุบัน บางบริษัทประกันมีการนำเสนอกรมธรรม์ที่เราไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน (กรณีผู้ป่วยใน) นอกจากนี้ ยังเพิ่มความคุ้มครองต่อเนื่องกรณีที่ต้องกลับมารักษาตัวต่อที่ประเทศไทยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันจะไม่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคที่เราเป็นก่อนการทำประกันเดินทาง
กรณีที่เครื่องบินเราล่าช้ากว่ากำหนด (ดีเลย์) ที่เกิดจากสภาพอากาศไม่ดี อุปกรณ์ของเครื่องบินมีปัญหา หรือมีการนัดหยุดงาน ทําให้เราไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด ทางบริษัทประกันจะชดเชยค่าเสียหายให้กับเรา โดยส่วนใหญ่จะจ่ายค่าชดเชยเพิ่มขึ้นสำหรับความล่าช้าทุก 6 ชั่วโมง โดยการจ่ายค่าชดเชยจะคิดเป็น % ของเงินเอาประกัน
กรณีที่เกิดความผิดพลาดของสายการบินทำให้เราได้รับกระเป๋าเดินทางช้ากว่ากำหนด ทางบริษัทประกันจะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงสำหรับของใช้จำเป็นที่เราต้องซื้อใหม่ เช่น เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น โดยเราจะต้องเก็บใบเสร็จในการซื้อของไว้ แล้วนำไปเบิกจากบริษัทประกันต่อไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่ค่าชดเชยจะเพิ่มขึ้นสำหรับความล่าช้าทุกๆ 6-8 ชั่วโมง โดยการจ่ายค่าชดเชยจะคิดเป็น % ของเงินเอาประกัน
หากกระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินที่เรานำติดตัวไปด้วยหายไป โดยหายในขณะที่กระเป๋าเดินทางของเราอยู่ภายใต้การดูแลของพนักงานโรงแรมหรือบริษัทขนส่ง หรือหายจากกรณีที่เราถูกจี้ โดนข่มขู่หรือบังคับอย่างรุนแรง บริษัทประกันจะจ่ายค่าชดเชยสำหรับความสูญเสียนั้น ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีที่เราโดนขโมยทรัพย์สิน เช่น โดนล้วงกระเป๋า หรือโดนทุบรถแล้วขโมยกระเป๋าหรือทรัพย์สินไป เป็นต้น
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ผลประโยชน์ที่ได้รับจะเป็นเงินชดเชยก้อนใหญ่ ซึ่งหากเราเสียชีวิต ทายาทหรือผู้ที่อยู่ข้างหลังจะได้เงินก้อนไว้สำหรับดำเนินชีวิตต่อไปได้ หรือกรณีที่เราสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ เงินชดเชยก้อนนี้ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวที่ต้องดูแลเราต่อไป
ทั้งนี้ ประเภทความคุ้มครองจะมากหรือน้อย ขึ้นกับแผนความคุ้มครองที่เราเลือก ซึ่งก็จะสอดคล้องกับค่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไป หรือจะพูดว่าจ่ายเบี้ยเยอะขึ้นก็ได้รับความคุ้มครองเยอะขึ้นนั่นเอง ที่สำคัญ อย่าลืมดูเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ด้วย แค่นี้...เพื่อนๆ ก็จะได้ท่องเที่ยวสุขใจแบบได้ความคุ้มครอง แล้วก็จะได้มีความสุขไปกับเราทุกวันยันเกษียณเลยครับ
เพื่อนๆ สามารถติดตามสาระดีๆ และข้อมูลข่าวสารด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนได้ที่ TISCO Smart Retirement Facebook : TISCO Line@ : @tiscoasset
#TISCOsmartretirement #สุขทุกวันยันเกษียณ #Smartretirement #SmartInsure