1.  ศึกษาข้อมูลสินค้าจากหลายแหล่ง

เราควรจะศึกษาข้อมูลสินค้าที่เราสนใจจากหลายๆ แหล่งว่า สินค้าที่เราต้องการใช้งานยังไง ของแท้หน้าตาเป็นยังไง โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องศึกษาอย่างละเอียด เนื่องจากร้านค้าที่เสนอขายสินค้าออนไลน์มีมากมายหลายร้านค้า ราคาก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของสินค้าแหล่งผลิต รวมถึงการรับประกันหรือการเปลี่ยนคืนสินค้าด้วย

นอกจากนี้ เราสามารถไปลองไปจับต้องสินค้าจริงจากแหล่งออฟไลน์ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ก่อนสั่งซื้อของออนไลน์ เพื่อที่จะได้ดูว่าสินค้าที่เสนอในร้านออนไลน์เป็นรุ่นที่มีอยู่จริงๆ มั้ย เป็นแบบที่เราต้องการหรือเปล่า 

2.  ดูรีวิวจากคนที่เคยซื้อสินค้า

ให้ดูรีวิวจากคนที่เคยซื้อสินค้าจากร้านค้าที่เราจะซื้อก่อนทุกครั้ง ว่าคนที่ซื้อไปก่อนหน้าเราถูกใจของหรือสินค้าที่ได้รับมีปัญหาหรือเปล่า แล้วแต่ละคนได้ของตรงปกหรือเปล่า

3.  ตรวจสอบคุณลักษณ์ของสินค้า

ก่อนซื้อให้ดูขนาด สี ไซส์ น้ำหนักของสินค้าที่เราจะสั่งให้ดีว่าตรงกับที่เราต้องการหรือเปล่า โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย ต้องวัดขนาดของตัวเราก่อนว่าเราใส่เสื้อผ้าขนาดเท่าไหร่ ถ้าไม่รู้ว่าก็วัดจากเสื้อผ้าที่เราใส่อยู่ก็ได้ แล้วดูขนาดที่ร้านแจ้งไว้ให้ละเอียดว่ามีหน่วยเป็นเซ็นติเมตรหรือนิ้ว จะได้ไม่เกิดปัญหาการซื้อเสื้อผ้าผิดไซส์

4.  ตรวจสอบการจัดส่งสินค้า

ให้ตรวจสอบว่าร้านค้าใช้บริการจัดส่งสินค้าของบริษัทอะไร มีความน่าเชื่อถือไหม เพื่อลดความเสี่ยงการชำรุดของสินค้าระหว่างการขนส่ง

5.  การรับประกันสินค้าและการเปลี่ยนคืนสินค้า

สำหรับสินค้าที่มีราคาแพง ให้สอบถามทางร้านค้าที่จะซื้อว่ามีการรับประกันหรือเปล่า สามารถเปลี่ยนคืนสินค้าได้หรือไม่

หวังว่าเพื่อนๆ จะได้เทคนิคในการซื้อของออนไลน์ แล้วก็ได้สินค้าตรงกับที่เราต้องการ แต่ต้องไม่ลืมกฏเหล็กของการช้อปปิ้ง ก็คือ ช้อปแต่พอดี ช้อปเฉพาะของที่จำเป็นและถูกใจเราจริงๆ เพียงแค่เรารู้จักการวางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบ เราก็จะมีเงินเก็บและมีความมั่นคงในชีวิต แล้วก็จะมีความสุขไปด้วยกันยันเกษียณเลยล่ะค่ะ

เพื่อนๆ สามารถติดตามสาระดีๆ และข้อมูลข่าวสารด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนได้ที่ TISCO Smart Retirement Facebook : TISCO   Line@ : @tiscoasset

#TISCOsmartretirement #สุขทุกวันยันเกษียณ #Smartretirement  #Smartspending